วันนี้แอดมินมีสูตร เมนูจากเตาอบ ที่สามารถทำเมนูได้หลากหลาย และรวดเร็วเพียงแค่มี เตาอบ โดยเตาอบเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สามารถปรุงอาหารได้หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำอาหารทานเองที่บ้าน เพียงแค่มีเตาอบสักหนึ่งเครื่องก็สามารถสร้างสรรค์เมนูอาหารได้หลายอย่างด้วยกัน เพิ่มสีสันให้กับการทานอาหารในแต่ละมื้อที่ไม่ซ้ำซากจำเจกับเมนูเดิมๆ โดยวันนี้เราก็รวบรวมเมนูมาฝากทั้งจากเตาอบไฟฟ้าและจากเตาอบลมร้อนให้นำไปทำทานได้เองที่บ้าน มีอะไรบ้างนั้นไปดูพร้อมๆ กันเลย 

 

1. พิซซ่า

เริ่มต้นเมนูจากเตาอบเล็กกันด้วยเมนูพิซซ่า อาหารสไตล์อิตาเลียน สูตรแป้งบางกรอบ ราดซอสพิซซ่าลงไป ตามด้วยแฮมและไส้กรอก ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ชีส อบกริ๊งเดียวแสนง่าย ทำทานเองก็ฟินเองง่าย ๆ

ส่วนผสม แป้งพิซซ่า (สำหรับ 2 ถาด)

        ► เกลือ 1/2 ช้อนชา
        ► น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
        ► ยีสต์ 1 ช้อนชา
        ► แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
        ► แป้งขนมปัง 100 กรัม
        ► น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
        ► น้ำอุ่น 1 ถ้วย

ส่วนผสม ซอสพิซซ่า

        ► มะเขือเทศ 1 ลูก
        ► หอมใหญ่ 1 หัว
        ► เนยจืด
        ► ซอสมะเขือเทศ
        ► เกลือป่น
        ► น้ำตาลทราย
        ► ออริกาโน่

ส่วนผสม หน้าพิซซ่า (แฮมและไส้กรอก)
วิธีทำพิซซ่า

1. นำเกลือ น้ำตาลทราย และยีสต์ผสมลงในน้ำอุ่นคนให้ละลายแล้วทิ้งไว้ 10-15 นาที ให้ยีสต์เริ่มทำงานก่อน เตรียมไว้
2. นำแป้งสาลีอเนกประสงค์กับแป้งขนมปังผสมลงในถ้วย ใส่น้ำมันมะกอกและเทส่วนผสมยีสต์ลงไป
3. นวดส่วนผสมไปเรื่อย ๆ ประมาณ 30-45 นาที หรือจนเนื้อแป้งเนียนเข้ากัน พอนวดได้ที่แล้วก็หาอะไรคลุม วางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง หรืออุณหภูมิอุ่นกว่า

 


Cr.คุณ TaYo76 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 


4. หั่นมะเขือเทศกับหอมใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมเต๋าชิ้นเล็ก ๆ
5. ตั้งกระทะใส่เนยจืดลงไปผัดกับหอมใหญ่จนสุก จากนั้นใส่มะเขือเทศลงไปผัดต่อสักครู่
6. ใส่ซอสมะเขือเทศลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลทราย แต่งกลิ่นด้วยออริกาโน่ ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้

7. พอแป้งนุ่มได้ที่แล้วก็เตรียมเขียงให้พร้อม โรยแป้งลงบนเขียงไม้ เอาแป้งที่นุ่มแล้วมาตัดแบ่งเป็น 2 ก้อน คลึงแป้งให้แผ่เป็นแผ่นใหญ่ ๆ

8. นำแป้งใส่ลงในพิมพ์ (ถาดเตาอบแบบกริ๊ง) ที่รองฟอยล์ไว้ แล้วแผ่แป้งให้เป็นแผ่นบางตามขนาดของพิมพ์ นำส่วนผสมซอสพิซซ่าทาลงบนแผ่นแป้งพิซซ่าให้ทั่ว

9. ใส่ไส้กรอกลงไปบนแป้งพิซซ่า ตามด้วยแฮมและมอสซาเรลลาชีส โรยพาร์มีซานชีส

10. นำเข้าเตาอบเล็กประมาณ 7-10 นาที หรือให้หน้าเกรียมเล็กน้อย นำออกมาโรยออริกาโน่ หั่นแบ่งเป็นชิ้น
Cr.คุณ TaYo76 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 

 

ทาร์ตไข่

 

  • ส่วนผสม ทาร์ตไข่
  • แป้งพายสำเร็จรูปแช่แข็ง 8-9 ชิ้น
  • ไข่ไก่ (เต็มฟอง) 1 ฟอง
  • ไข่แดง 1 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • นมจืด 200 มิลลิลิตร
  • วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • เกลือนิดหน่อย

วิธีทำทาร์ตไข่
     1. เริ่มจากตีไข่และน้ำตาลทรายจนน้ำตาลละลาย

     2. ใส่นม วิปครีม กลิ่นวานิลลา และเกลือ คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วกรองด้วยกระชอน หรือผ้าขาวบาง

     3. นำส่วนผสมที่กรองแล้วตักใส่ถ้วยให้เต็ม สูตรนี้ทำได้ 8-9 ถ้วย

     4. ก่อนนำเข้าเตาอบให้เปิดวอร์มเตาไว้ก่อนประมาณ 15 นาที เปิดไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นำเข้าเตาอบ 30-35 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุก

 

ขนมปังชีสหน้าไหม้


ภาพจาก ครัวป้ามารายห์

ชีสเค้กหน้าไหม้ทำบ่อยก็เบื่อ ลองมาทำขนมปังหน้าชีสไหม้กันดีไหม ใส่เนยสดกับน้ำผึ้ง ที่ขาดไม่ได้คือเชดดาร์ชีส

ส่วนผสม ขนมปังหน้าชีสไหม้

  • เชดดาร์ชีส 2 แผ่น
  • วิปปิ้งครีม 30 มิลลิลิตร        
  • น้ำผึ้ง 15 กรัม
  • เนยสดรสเค็ม 30 กรัม
  • ขนมปัง 4 แผ่น

วิธีทำขนมปังหน้าชีสไหม้
     1. ใส่เนยสดรสเค็ม เชดดาร์ชีส น้ำผึ้ง และวิปปิ้งครีม ลงไปในชาม ตุ๋นบนหม้อน้ำร้อน คนจนทุกอย่างละลายเข้ากัน
     2. จากนั้นนำมาทาบนขนมปัง นำไปอบอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 8-10 นาที

เครมบรูเล่มะพร้าว

ถ้าหาซื้อยากมาทำเองดีกว่า สำหรับเครมบรูเล่มะพร้าวสูตรนี้ ใส่กะทิสดกับครีมสด ก่อนเสิร์ฟโรยน้ำตาลและใช้ปืนพ่นไฟ
 
ส่วนผสม เครมบรูเล่มะพร้าว (สำหรับ 20 ที่)
  • ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 24 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 350 กรัม
  • ครีมสด 750 มิลลิลิตร
  • กะทิคั้น 750 มิลลิลิตร

อุปกรณ์

  • ถ้วยกระเบื้อง
  • ถาดทรงสูง

วิธีทำเครมบรูเล่มะพร้าว
     1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส เตรียมไว้

     2. ต้มครีมสดและน้ำกะทิในหม้อด้วยไฟอ่อน คนผสมให้เข้ากัน พอเดือดให้ปิดไฟทันที (ไม่ควรใช้ไฟแรง และไม่ควรต้มให้เดือดจนเกินไป) พักไว้

     3. ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมครีม คนผสมตลอดเวลาจนเข้ากันดี กรองส่วนผสมด้วยกระชอน จากนั้นเทส่วนผสมที่ได้ลงในถ้วย ประมาณ 3/4 ของพิมพ์

     4. วางถ้วยลงในถาดทรงสูง เทน้ำลงในถาดให้สูงประมาณ 3/4 ของถ้วยครีม (เรียกวิธีการนี้ว่า bain marir) นำเข้าเตาอบนานประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรือจนสุก (วิธีการเช็กว่าสุกหรือไม่ให้ใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มลงไปตรงกลางถ้วย ถ้ามีเศษขนมติดออกมาแสดงว่ายังไม่สุก) นำออกจากถาดน้ำ และเก็บไว้ในตู้เย็นจนกว่าจะเสิร์ฟ

     5. เวลาจัดเสิร์ฟให้โรยน้ำตาลทรายบาง ๆ ลงบนหน้าขนมให้ทั่ว หลังจากนั้นใช้ปืนพ่นให้น้ำตาลเป็นสีน้ำตาลไหม้จนทั่ว เสิร์ฟคู่กับมะพร้าวเชื่อม
Cr. cooking.kapook.com
 
ชีสเค้กหน้าไหม้ (Basque Burnt Cheesecake) 
 
มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปน ลักษณะของชีสเค้กนี้จะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนชีสเค้กอื่นๆ สีที่ดูน่ารับประทาน เนื้อเค้กนุ่มละมุน และกลิ่นหอมไหม้ของน้ำตาลคาราเมล ทำให้ชีสเค้กตัวนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่นและในไทยเองด้วย
 
วัตถุดิบ
 
  • ครีมชีส อุณหภูมิห้อง 430 กรัม
  • น้ำตาลทราย 120 กรัม
  • ไข่ใบใหญ่ อุณหภูมิห้อง 3 ฟอง (น้ำหนักไม่รวมเปลือก 150 กรัม)
  • Heavy cream 270 กรัม (ปริมาณไขมันขั้นต่ำ 35%)
  • แป้งเค้ก 20 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
  1. ปูกระดาษรองอบ 2 ชั้นลงบนพิมพ์ 6 นิ้ว ให้ปลายกระดาษเกินพิมพ์ขึ้นมาประมาณ 1.5-2 นิ้ว
  2. ตีน้ำตาลกับครีมชีสให้เข้ากันด้วยความเร็วปานกลาง จนกระทั่งเนียน ไม่รู้สึกถึงเกล็ดน้ำตาล ปาดขอบให้เรียบร้อย
  3. ใส่ไข่ลงไปทีละใบ ตีด้วยความเร็วปานกลางจนเนียน ปาดขอบอีกครั้ง
  4. ใส่กลิ่นวานิลลาและน้ำมะนาว ตีให้เข้ากัน
  5. สลับมาอีกชามผสม ผสมแป้งและ ¼ ของครีม ผสมให้เนียน เติมครีมเพิ่มอีก ¼ ของสูตร ผสมให้เนียน และใส่ครีมที่เหลือ ผสมให้เนียนอีกครั้ง (ค่อยๆใส่แป้งเข้าไปจะทำให้ผสมได้เนียนง่ายขึ้น ไม่เป็นก้อน)
  6. ค่อยๆเทส่วนผสมของครีมชีสและแป้งที่ผสมครีมแล้วเข้าด้วยกัน ตีเบาๆให้เข้ากัน จากนั้นเพิ่มความเร็วเป็นปานกลาง ตีเพิ่ม 15 วินาที เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเนื้อเดียวกัน
  7. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 240C อย่างน้อย 30 นาที และนำเค้กเข้าอบที่ 240C เป็นเวลา 30-35 นาที จนกระทั่งหน้าเค้กมีสีเข้มเป็นเงาแทบจะเกรียม แต่ส่วนตรงกลางมีความหยุ่น เด้งดึ๋ง
  8. ทิ้งไว้ให้เซตตัวที่อุณหภูมิห้อง วางบนตะแกรงทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง
  9. นำเค้กออกจากพิมพ์ จะได้ชีสเค้กอุณหภูมิห้อง
  10. หากนำไปแช่ตู้เย็น เนื้อเค้กจะมีความแน่นขึ้น
บทส่งท้าย ปัจจัยหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญก่อนจะเริ่มทำขนมอบ ก็คือ เตาอบไฟฟ้า นั่นเอง เตาอบที่ดีจะให้ความร้อนสม่ำเสมอทั่วทั้งเตา จะทำให้ขนมออกมาได้สวยงาม อร่อย และเนื้อขนมสุกทั่วถึงกัน โดยทาง SGE ก็มีเตาอบไฟฟ้าให้ได้เลือกกันทุกขนาดตามความต้องการ ในราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับผู้อบขนมทุกท่านโดยสามารถดูรายละเอียด เตาอบไฟฟ้า  https://www.sgethai.com/baking-oven