ซี่โครงหมู กับ 5 เมนูที่เคี้ยวเพลินจนลืมเวลา

 

ซี่โครงหมู วัตถุดิบยอดนิยม สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะทอด ต้ม อบ หรือตุ๋น และที่สำคัญทำได้ง่าย ๆ ด้วยอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้นภายในครัวเท่านั้น และในบทความนี้ เราขอนำเสนอสูตร เมนูซี่โครงหมู เมนูกระดูกหมูอ่อน ทำง่าย ๆ อร่อยเข้าเนื้อ ทานอิ่มกันทั่วหน้า ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มาแค่ 1 แต่มีมาให้ถึง 5 เมนูเลยด้วยกัน ส่วนจะมีเมนูอะไรบ้าง เชิญอ่านได้ที่หัวข้อด้านล่างได้เลย

 

เมนูกระดูกหมูอ่อนต้มหัวไชเท้า

เชื่อได้ว่าหลาย ๆ คนคงจะได้เคยลิ้มลองกับ เมนูกระดูกหมูอ่อน ต้มหัวไชเท้า อย่างแน่นอน ว่ากันว่าเมนูนี้ เป็นเมนูบำรุงกำลัง ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า เป็นอีกหนึ่งเมนูมากคุณประโยชน์ ทำง่าย ๆ ด้วยหม้อต้มเพียงใบเดียวเท่านั้น

 

วัตถุดิบ

  • กระดูกหมูอ่อนล้างสะอาด ประมาณ 0.5-1 กิโลกรัมสำหรับการต้ม 1 หม้อ
  • รากผักชี กระเทียมกลีบเล็กล้างสะอาด
  • พริกไทยเม็ด
  • หัวไชเท้า 2 หัว ปอกเปลือกและล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่น
  • ต้มหอม ผักชีสำหรับโรยหน้าเพิ่มรสชาติ

วิธีทำ

  • โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดเข้าด้วยกัน ตำให้ละเอียดจากนั้นนำใส่หม้อ
  • ใส่น้ำสะอาดตั้งไฟ รอจนเดือดจึงใส่กระดูกหมูลงไป เคี่ยวด้วยไฟปานกลาง
  • เมื่อกระดูหมูสุกได้ที่ จึงใส่หัวไชเท้าที่หั่นเรียบร้อยลงไป ต้มต่ออีกสัก 3-5 นาที จึงยกลง จัดเสิร์ฟโดยการโรยต้นหอมผักชี เพิ่มกลิ่นและรสชาติ
เมนูผัดซี่โครงหมูผัดพริกแกง
เมนูซี่โครงหมู เพิ่มความแซ่บสักนิด ด้วยการประยุกต์นำซี่โครงมาผัดกับเครื่องแกงแบบไทย ๆ ให้รสชาติเผ็ดร้อนหน่อย ๆ  รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ รับประกันความอร่อยที่ลงตัว
 

วัตถุดิบ

  • ซี่โครงหมูหั่นชิ้น
  • เครื่องพริกแกงเผ็ด
  • พริกชี้ฟ้าหั่นแว่น
  • ใบมะกรูดฉีก
  • มะเขือเปราะหั่นแว่น มะเขือพวง

วิธีทำ

  • ตั้งหม้อให้นำเดือด ใส่ซี่โครงหมูอ่อนลงไปต้มให้เดือดสัก 5-10 นาที เมื่อซี่โครงหมูเปื่อยได้ที่ จึงยกลง และพักให้สะเด็ดน้ำ
  • ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย จากนั้นใส่เครื่องพริกแกงลงไปผัดให้แตกมัน และส่งกลิ่นหอม
  • เติมน้ำเปล่าสักเล็กน้อยปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ตามชอบ
  • ใส่ซี่โครงหมูต้มเปื่อยลงไปผัดคลุกเคล้ากับเครื่องแกงให้เป็นเนื้อเดียวกัน ตามด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นแว่น มะเขือเปราะหั่นแว่น และมะเขือพวง จากนั้นปิดไฟยกลงเสริ์ฟ แต่งหน้าด้วยใบมะกรูดฉีกฝอย เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ
 
เมนูซี่โครงหมูย่าง
หากใครเป็นแม่บ้านยุคใหม่อาศัยในคอนโด หรือหอพัก ครั้นจะทำเมนูซี่โครงหมูแบบต้ม ย่าง หรือผัดด้วยไฟแรง ๆ ก็ดูจะลำบากอยู่ไม่น้อย ดังนั้น เราจึงอยากแนะนำให้ท่านซื้อหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือเตาอบดี ๆ สักเครื่องหนึ่ง เพียงเท่านี้ก็รังสรรค์เมนูซี่โครงหมูย่างสุดฟินได้ง่าย ๆ
 

วัตถุดิบ

  • ซี่โครงหมู 1 กิโลกรัม
  • น้ำผึ้ง
  • เกลือ พริกไทย
  • น้ำมันหอย
  • ซอสบาร์บีคิว

วิธีทำ

  • ผสมซอสบาร์บีคิว น้ำมันหอย เกลือ พริกไทยและน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน และคนจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
  • ทาซอสลงบนหมูให้ทั่ว จากนั้น วางลงในหม้อทอดไร้น้ำมัน และทอดด้วยความร้อน 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที จากนั้น พลิกอีกด้าน และทอดด้วยความร้อน 180 องศาเป็นเวลา 10 นาที เช่นกัน
เมนูซี่โครงหมูอบ ราดซอสบาร์บีคิว
เมนูซี่โครงหมูอบชิ้นใหญ่ ๆ จะต้องเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยม ที่ทุกท่านจะต้องสั่งอย่างแน่นอน และรู้หรือไม่ว่าเมนูซี่โครงหมูอบบาร์บีคิวนี้ แท้จริงแล้วสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยกระทะเพียงใบเดียวเท่านั้น ซึ่งใครอยากรู้วิธีทำอาหารฝรั่งจานนี้ ตามมาดูกันเลย
 

วัตถุดิบ

  • ซี่โครงหมูแบบแผ่น (Rack) ประมาณ 1-2กิโลกรัม 
  • ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก
  • กระเทียม ขิงอ่อนสับละเอียด
  • โรสแมรี่ ออริกาโน่ เกลือ พริกไทย
  • น้ำผึ้ง หรือน้ำตาลทราย
  • อบเชยป่น

วิธีการปรุงน้ำซอสบาร์บีคิว

  • เริ่มต้นการปรุงน้ำซอสบาร์บีคิว ด้วยการผสมซอสมะเขือเทศ ซอสพริก กระเทียมสับและขิงอ่อนเข้าด้วยกัน โดยสัดส่วนของซอสพริก และซอสมะเขือเทศขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน โดยหากใครชอบเผ็ดก็ใส่ซอสพริกมากหน่อยเท่านั้นเอง
  • จากนั้นใส่เครื่องปรุงต่าง ๆ เช่น ออริกาโน่ โรสแมรี อบเชย เกลือ พริกไทย น้ำผึ้ง หรือน้ำตาลลงไป คนจนส่วนผสมทั้งหมดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน และตั้งพักไว้

วิธีทำ

  • ตั้งกระทะบนเตา โดยเลือกระทะที่มีก้นลึกสักหน่อย เพื่อป้องกันน้ำซอสกระเด็นออกมาภายนอก
  • ใส่ซี่โครงทั้งแผ่นลงในกระทะ เติมน้ำลงไปเล็กน้อย จากนั้น นำซอสที่เตรียมไว้เทลงไป รอให้ละลายให้เข้ากัน
  • ปิดฝากระทะอบต่อด้วยไฟอ่อนสุด ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อซี่โครงเปื่อย และเข้าถึงน้ำซอส เมื่อได้ที่แล้ว จึงจัดเสริ์ฟใส่จาน
 
ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน

อยากกินต้มแซ่บ เมนูกระดูกหมูอ่อน แต่ไม่มีข้าวคั่วก็ไม่ต้องแคร์ แค่เตรียมเครื่องสมุนไพร และเครื่องปรุงให้พร้อม ทำง่าย ๆ

ส่วนผสม

  • น้ำ 500 มิลลิลิตร
  • ข่าแก่หั่นแว่น 5 ชิ้น
  • ตะไคร้หั่นเฉียง 1 ต้น
  • ใบมะกรูด ฉีกก้านกลาง 3 ใบ
  • กระดูกอ่อนหมู 200 กรัม
  • เห็ดฟางผ่าครึ่ง 100 กรัม
  • มะเขือเทศราชินีผ่าครึ่ง 50 กรัม
  • หอมแขกซอยบาง 1 หัว
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น
  • ใบโหระพา 10 ใบ
  • ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงต้มจนเดือดอีกครั้ง
  2. ใส่กระดูกอ่อนหมูลงต้มจนสุก ใส่เห็ดฟาง มะเขือเทศ และหอมแขกซอยลงต้ม
  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนผสมจนเข้ากันดี ยกลงจากเตา ตักใส่ชาม เติมน้ำมะนาว พริกป่น และผักชีฝรั่ง ชิมรสตามชอบ โรยด้วยใบโหระพา พร้อมเสิร์ฟ
น่าจะถูกใจคนรักซี่โครงหมูหลาย ๆ คนไม่มากก็น้อย กับ 5 เมนูที่ทำได้ง่าย ๆ โดยใช้อุปกรณ์ในบ้านเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเอง แต่กลับได้เมนูสุดแสนอร่อยที่ทานกันได้ทั้งบ้าน บอกเลยว่าถ้าได้ข้าวสวยร้อน ๆ สักถ้วย อร่อย เคี้ยวเพลินจนลืมเวลากันเลยทีเดียว

แต่หากคุณพ่อบ้าน คุณแม่บ้าน อยากได้ตัวช่วยดี ๆ ที่จะมาเพิ่มความสะดวกในการจัดการกับเจ้ากระดูกหมูชิ้นโต ก็นี่เลย เครื่องตัดกระดูก ซึ่งขอบอกเลยว่ามีหลากหลายขนาดให้เลือกเลยนะ แล้วยังมีบริการหลังการขายอีกต่างหาก อะไรดีก็บอกกันต่อ แล้วไว้เจอกันในบทความหน้า ว่าเราจะเอาเมนูอะไรมานำเสนอเพื่อน ๆ อีกบ้าง ขอบคุณค่ะ

 

ในปัจจุบันธุรกิจ SME นับว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ทั้งในด้านการผลิต และการจ้างงาน อีกทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรรมใหม่ๆออกสู่ตลาด และเห็นได้ว่ากลุ่มธุรกิจด้านอาหารที่เป็น SMEs มีจํานวนมากเป็น อันดับที่สองรองจากธุรกิจค้าปลีก โดยมีจํานวนมากกว่า 300,000 กิจการในไทย ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจอาหาร นั่นก็คือ “เครื่องซีลสุญญากาศ” ที่จำเป็นกับอาหารแทบจะทุกชนิด เรียกว่าเป็นของที่ขาดไม่ได้ของธุรกิจกลุ่มนี้เลย แล้วของสำคัญขนาดนี้ จะเลือกซื้อยังไงให้ไม่พลาด และส่งผลดีต่อธุรกิจของเราที่สุดล่ะ?

เครื่องซีลสูญญากาศ รุ่นไหน ที่เหมาะกับเรา?

มาถึงตรงนี้แล้ว ต้องถามผู้ประกอบการ SME ทุกคนแล้วค่ะว่า ธุรกิจของท่านต้องการซีลสินค้า กี่ชิ้นต่อวัน เพื่อที่จะได้ทราบว่ารุ่นไหนจะคุ้มค่ากับการลงทุนและตอบโจทย์ผู้ประกอบการแต่ละท่านมากที่สุด เพราะฉะนั้นเราขอพาทุกท่านไปรู้จักกันเครื่องซีลสูญญากาศ ของเราแต่ละรุ่นกันเลยค่ะ…

ขอเริ่มต้นด้วยเครื่องซีลสูญญากาศที่เหมาะกับ ธุรกิจ SME ขนาดย่อม ก่อนเลยนะคะ ตัวเครื่องแต่ละรุ่นจะถูกออกแบบมาเพื่อ 🥰 รองรับการทำงานอย่างต่อเนื่อง 30-200 ถุง/วัน พิเศษ!! 👉 สามารถซีลได้กับถุงทุกชนิดยกเว้นถุงลายนูน👉 สามารถช่วยลดต้นทุน ได้ ถึง 50% ตัวเครื่องเป็นระบบลิ้นดูดอากาศ ที่สามารถไล่อากาศจากภายในออกมาได้มากยิ่งขึ้น พร้อมการติดตั้งระบบแท็งค์ที่จะรองรับความชื้นอีก
 
“เครื่องดูดสูญญากาศ” มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
ปัจจุบันนี้ Vacuum Sealer นวัตกรรมการถนอมอาหาร กำลังเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ หนีไม่พ้น การซีลสุญญากาศ ด้วย เครื่องซีลสูญญากาศ ปกติแล้ว การถนอมอาหาร (food preservation) วัตถุดิบที่ใช้เพื่อการแปรรูปอาหาร เป็นวัตถุดิบทางการเกษตร เช่น ผักเนื้อสัตว์ นม ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้เสื่อมเสียได้ง่าย การถนอมอาหารมีวัตถุประสงค์ เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาอาหารถนอมรักษาคุณภาพอาหารด้านต่างๆ ของอาหารให้ใกล้เคียงของสด ชะลอ และป้องกันการเสื่อมเสีย

สำหรับการนำผลิตภัณฑ์อาหารมาบรรจุสุญญากาศ จะช่วยยืดอายุอาหาร ได้นานขึ้นประมาณ 3-5 เท่า (แล้วแต่ชนิดของอาหาร) ด้วยการป้องกันไม่ให้อาหารสัมผัสกับอากาศ หรือออกซิเจน จะช่วยยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย ยังช่วยรักษาคุณภาพและรสชาติของอาหาร ให้ยังคงความสดใหม่อยู่เสมอ มีประโยชน์มากมายขนาดนี้บอกเลยว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชอบทำอาหาร หรือทำธุรกิจอาหารแล้วละก็ พลาดไม่ได้แล้ว ! วันนี้เราจะมี เคล็ด (ไม่) ลับวิชาเซียน ในการเลือกซื้อเครื่องซีลสูญญากาศ อย่างไรให้เหมาะสมมาบอกต่อกันครับ
 

1. ถุงม้วนกับการซีลสูญญากาศในครัวเรือน

ถ้าหากคุณใช้งานเองภายในบ้าน และมีการใช้เครื่องซีลสูญญากาศค่อนข้างบ่อย การเลือกรุ่นที่มีช่องใส่ถุงแบบม้วนในตัว จะเป็นคำตอบที่ตรงโจทย์มากกว่า ประโยชน์แรกคือ  คุณจะประหยัดเวลาตามหาถุงซีลที่ขนาดพอเหมาะกับอาหาร แม้กระทั่งเวลาที่คุณต้องมองหากรรไกรมาตัดถุงให้เล็กลง ทุกสิ่งที่คุณต้องการถูกติดตั้ง ไว้ในเครื่องซีลสุญญากาศข้างหน้าของคุณแล้ว ประโยชน์ที่สองคือ คุณสามารถเลือกขนาดของถุงซีล ได้ตามความต้องการ ช่วยลดปัญหาขยะ และประหยัดเงินในการซื้อถุงได้ในระยะยาวนั่นเอง

2. เครื่องซีล รุ่นเล็ก หรือ รุ่นใหญ่ใช้แบบไหนดี

          เครื่องซีลสูญญากาศ ทุกวันนี้มีหลากหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ขนาดเล็กรุ่นพกพา ที่มีขนาดประมาณกล่องทิชชูเท่านั้นเอง ไปจนถึงเครื่องขนาดใหญ่ สำหรับอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ ใหญ่ขนาดไหน ? ก็ประมาณน้อง ๆ ตู้เย็นเลยครับ

          เครื่องขนาดเล็ก สำหรับพกพานั้น แน่นอนว่าไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก เพราะแถบทำความร้อนไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทนทาน เมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็จะไหม้หรือละลายได้นั่นเอง โดยปกติรุ่นเล็ก ใช้เสร็จแล้วต้องทำการพักเครื่อง 20-30 วินาที ทุกครั้ง ดังนั้นขนาดของเครื่อง ก็ขึ้นอยู่กับประมาณการใช้งาน และความต่อเนื่องในการใช้งานนั่นเองครับ ถ้าคุณใช้งานบ่อยมากกว่า 30 ถุงต่อวัน แนะนำเป็นเครื่องใหญ่ จะเหมาะสมกว่า ทั้งขนาดของแถบซีลที่หนากว่า จะทำให้การซีลแน่น และปลอดภัย รวมไปถึงฟังก์ชันต่าง ๆ อีกมากมาย

 

3. ประสิทธิภาพและความแตกต่างของ เครื่องซีล แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร

          เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ในการเลือกรุ่นเครื่องซีลสูญญากาศเลยทีเดียว เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับ ต้นทุนในการผลิตนั่นเอง เครื่องซีลสุญญากาศแต่ละชนิดมีถุงที่รองรับการใช้งานไม่เหมือนกัน ในประเทศไทย ถุงซีลสุญญากาศ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ถุงซีลลายนูน และถุงซีลแบบเรียบ ความแตกต่างก็คือ ราคาต้นทุนของถุงลายนูน จะสูงกว่าถุงแบบเรียบ เกือบประมาณ 2 เท่าเลยครับ พูดง่าย ๆ ก็คือ สำหรับการซีลปริมาณมาก เพื่อการจำหน่าย ยังไงก็หนีไม่พ้นเครื่องซีล ที่สามารถใช้งานกับถุงแบบเรียบได้ชัวร์ ๆ เช่น เครื่องซีลระบบลิ้นดูด หรือเครื่องซีลสุญญากาศแบบห้องสุญญากาศ ซึ่งตัวเครื่องก็จะมีราคาสูงกว่า แต่ถ้าใช้ในปริมาณมาก รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ

          แต่ในขณะเดียวกันถุงลายนูนก็ไม่น้อยหน้านะครับ ถึงแม้ว่าราคาจะสูงกว่า แต่ก็ตามมาด้วยคุณภาพสามารถทนความร้อนได้ดี และเหมาะกับการทำอาหารด้วยเทคนิคซุวี (Sous vide) โดยส่วนใหญ่ เครื่องซีลสุญญากาศที่ใช้ร่วมกับถุงลายนูน จะเป็นรุ่นที่ใช้ในครัวเรือนมีความหรูหรา มาพร้อมฟังก์ชันแบบจัดเต็ม เช่น การดูดสุญญากาศแบบนุ่มนวล การหมักอาหารสุญญากาศ สรุปว่าเครื่องสำหรับถุงลายนูนนั้น ขอแนะนำให้กับผู้ใช้ในครัวเรือน ที่ซีลในปริมาณไม่มากนั่นเองครับ

4. หากสินค้าเป็นของเหลว, ของเปียก (มีน้ำ) หรือ เป็นผงและควรใช้เครื่องแบบไหน

          โดยส่วนใหญ่การซีลสุญญากาศของแห้งนั้น เครื่องซีลแทบทุกรุ่นแทบไม่มีปัญหาอะไรมาให้ปวดหัวครับ แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังไว้ก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่วัตถุดิบ อาหาร เป็นของเหลวหรือมีส่วนประกอบเป็นของเหลว รวมไปถึงวัตถุดิบที่เป็นผงละเอียดเหล่านี้ เราต้องเลือกรุ่นให้เหมาะสมเท่านั้นครับ เพราะว่าเครื่องซีลสุญญากาศแบบครัวเรือนทั่ว ๆ ไป เมื่อดูดอากาศออก ของเหลวและฝุ่นผงก็มีโอกาสถูกดูดเข้าไปในระบบภายในเครื่องทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อเครื่องได้ครับ

          หากท่านมีความต้องการซีลวัตถุดิบที่เป็นของเหลว เช่น นํ้าซอสหรือนํ้าพริก หรือที่เป็นผงละเอียด เช่น ผงแป้งต่าง ๆ นั้น ไม่ต้องคิดมากเลยครับท่านมีทางเลือกเดียว เครื่องซีลสุญญากาศระบบห้องสุญญากาศ (Vacuum Chamber) ซึ่งการทำงานก็คือ นำวัตถุดิบไปซีลภายในห้องที่เป็นสุญญากาศทั้งหมด เครื่องแบบห้อง ส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่และราคาแพงการซีลแต่ละครั้งค่อนข้างใช้เวลา แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะซีลสุญญากาศได้แน่นกว่า การบำรุงรักษาน้อยเหมาะสำหรับทำเป็นธุรกิจที่ต้องซีลของเหลวหรือผงนั่นเองครับ

sge ซีลของทอด อบแห้ง ผลไม้

5. ของบอบบาง, ทอดกรอบ, อบแห้ง, ผัก และผลไม้ ซีลอย่างไรไม่ให้แตกหัก

          ถ้าหากว่าคุณมีความคิดจะซีลสุญญากาศวัตถุดิบที่มีความบอบบาง เช่น ขนมปัง, ผักกาดแก้ว หรือมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ คุณต้องการเครื่องซีลสูญญากาศรุ่นที่มาพร้อมระบบ Gentle mode หรือการดูดสุญญากาศอย่างช้าๆ นุ่มนวล ในการใช้งานระบบนี้เครื่องซีลจะค่อย ๆ ดูดอากาศออกมาช้า ๆ คุณเพียงแค่รอให้ถุงบีบตัวให้เยอะที่สุด ในจังหวะก่อนที่วัตถุดิบจะโดนบีบอัดจนแตกหัก ให้กดปุ่มหยุดดูดและซีลทันที ด้วยระบบนี้จะทำให้คุณมีตัวเลือกวัตถุดิบการซีลมากขึ้นครับ เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นเร้าอารมณ์ เรากระซิบได้ครับว่า นอกจากการซีลสุญญากาศแล้วนั้น เครื่องซีลรุ่นใหม่สมัยนี้บางครั้งยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การอัดไนโตรเจน ซึ่งเหมาะมาก ๆ กับการถนอมอาหารวัตถุที่มีความบอบบางสูง ผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกับถุงบรรจุมันฝรั่งทอดกรอบที่ขายตามร้านสะดวกซื้อแบบนั้นเลยทีเดียว

6. ฟังก์ชันเสริมสำหรับผู้ที่รักการถนอมอาหาร และ “รักษ์โลก”

สำหรับท่านที่ต้องการช่วยกันลดการใช้ขยะถุงพลาสติก พลาดไม่ได้เลยกับฟีเจอร์การใช้งานร่วมกับกล่องหรือกระป๋องสุญญากาศที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ กระป๋องสุญญากาศนั้นจะมาพร้อมกับฝาวาล์วแบบพิเศษที่สามารถเชื่อมต่อกับสายดูดสุญญากาศของเครื่องซีลรุ่น ๆ นั้นได้ ในบางรุ่นถูกออกแบบมาให้ลํ้ายิ่งขึ้น ให้เราสามารถหมักอาหารด้วยการปรับแรงดันอากาศภายในกระป๋องสุญญากาศ ทำให้รสชาติการหมักนั้น ลํ้าลึกยิ่งขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็วได้อีกต่างหาก อีกหนึ่งคำถามครับว่า คุณต้องการใช้ฟังก์ชันนี้มากน้อยแค่ไหน ขอแนะนำรุ่นนี้สำหรับผู้ที่ต้องการรับเครื่องซีลสุญญากาศพรีเมียม ใช้คู่ครัวกันไปยาว ๆ เลยจะเหมาะสมกว่าครับ
 
เป็นอย่างไรบ้างคะ ถึงตรงนี้ น่าจะเลือกเครื่องซีลสุญญากาศกันได้แล้วน้าา ไหนถูกใจกันไหม เรียกได้ว่าเครื่องซีลเป็นตัวช่วยหลักในการถนอมอาหารเลยค่ะ หากใครกำลังมองหาเครื่องซีลสูญญากาศดีๆ ลองเปิดใจให้เครื่องซีลของ SGE ก็ไม่เลวเลยทีเดียว เครื่องซีลสูญญากาศ หากใครสงสัยเกี่ยวกับเครื่องซีลสุญญากาศแนะนำให้อ่านเพิ่มที่ 

 

 

 

แป้งข้าวหมาก เป็นวัตถุดิบอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์มาก ๆ โดยเฉพาะการทำ ข้าวหมาก ขนมไทยพื้นบ้าน ที่มีรสชาติหวานอร่อย กินแล้วเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย หากใครไม่เคยรู้มาก่อนว่า

 

แป้งข้าวหมาก หรือ ลูกแป้งข้าวหมาก คือ กล้าเชื้อจุลินทรีย์ผสมธรรมชาติ สำหรับใช้หมักข้าวเหนียวทำข้าวหมาก แป้งข้าวหมากได้จากการผสมแป้งข้าวเจ้ากับลูกแป้งเดิมเพื่อเป็นการต่อเชื้อ และมีส่วนผสมของเครื่องเทศสมุนไพรไทย เมื่อผสมส่วนประกอบเข้าด้วยกัน ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมและหมักบ่มไว้ ในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม จะเกิดเชื้อราสีขาวขึ้นเติมก้อนแป้ง เมื่อเชื้อเติบโตเต็มที่แล้ว จึงนำไปตากแดดให้แห้ง ลูกแป้งที่ได้จะมีลักษณะสีขาวนวล ก้อนแป้งฟูขึ้นเล็กน้อย ภายในเป็นโพรงมีเส้นใยราสีขาวขึ้นทั่วไป และมีน้ำหนักเบา เมื่อตากแป้งแห้งสนิทแล้วก็สามารถเก็บกล้าเชื้อนี้ไว้ใช้ทำข้าวหมากได้

 

เครื่องเทศส่วนผสมในแป้งข้าวหมาก ทำหน้าที่ในการควบคุมเชื้อจุลินทรีย์ชนิดที่ไม่ต้องการ ทำให้ในลูกแป้งมีเฉพาะเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ สามารถให้หมักข้าวเหนียว ให้มีรสหวาน รับประทานได้

แป้งข้าวหมากมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและกรรมวิธีการของผู้ผลิตแต่ละแหล่ง ส่งผลให้แป้งข้าวหมากมีส่วนประกอบของเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อรา ยีสต์ แบคทีเรีย แตกต่างกัน ทำให้ข้าวหมากที่ผลิตได้จากลูกแป้งในแต่ละแหล่งมีลักษณะ กลิ่น รสชาติ ปริมาณน้ำต้อย ที่แตกต่างกันจากผลของเชื้อจุลินทรีย์เหล่านั้น ดังนั้น แป้งข้าวหมากจึงมีความสำคัญต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ข้าวหมากมาก

นอกจากจะนำแป้งข้าวหมากมาทำเป็นข้าวหมากแล้วยังพบการนำมาใช้เป็นส่วนผสมของขนมอื่น ๆ เช่น ขนมตาล ขนมถ้วยฟู ซาลาเปา ขนมปัง รวมทั้งในทางการเกษตรเช่นการทำปุ๋ย ฮอร์โมนไข่ เพื่อเพิ่มฮอร์โมนพืชทำให้พืชให้ดอกให้ผล เนื่องจากกระบวนการหมักทำให้เกิดจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ อีกด้วย


แป้งข้าวหมาก คือ

 

แป้งข้าวหมาก คือ หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำเป็นรูปของเม็ดแป้งครึ่งวงกลม มีขนาดประมาณ 3 – 4 เซนติเมตร เนื้อแป้งมีสีขาวนวล ในเนื้อแป้งประกอบไปด้วยจุลินทรีย์หรือยีสต์ ที่มีคุณสมบัติเปลี่ยนให้แป้ง เป็นแอลกอฮอล์อยู่จำนวนมาก ภายในมีรูพรุนและมีน้ำหนักเบา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งการนำไปหมักกับข้าวเหนียว เพื่อให้เกิดน้ำตาลและแอลกอฮอล์อ่อนๆ จนกลายเป็นของหวานอย่าง ข้าวหมาก หรือจะนำไปเป็นเชื้อให้น้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ทางการเกษตรก็ได้

 

แป้งข้าวหมาก คือ หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำเป็นรูปของเม็ดแป้งครึ่งวงกลม มีขนาดประมาณ 3 – 4 เซนติเมตร เนื้อแป้งมีสีขาวนวล ในเนื้อแป้งประกอบไปด้วยจุลินทรีย์หรือยีสต์ ที่มีคุณสมบัติเปลี่ยนให้แป้ง เป็นแอลกอฮอล์อยู่จำนวนมาก ภายในมีรูพรุนและมีน้ำหนักเบา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งการนำไปหมักกับข้าวเหนียว เพื่อให้เกิดน้ำตาลและแอลกอฮอล์อ่อนๆ จนกลายเป็นของหวานอย่าง ข้าวหมาก หรือจะนำไปเป็นเชื้อให้น้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ทางการเกษตรก็ได้

แป้งข้าวหมาก:ทำจากอะไร?

แป้งข้าวหมาก หลัก ๆ เลย มีส่วนผสมจาก แป้งข้าวเจ้าผสมกับเชื้อยีสต์ โดยบางท้องถิ่น อาจมีการเติมสมุนไพรบดลงไปด้วย เช่น ขิง ข่า พริกไทย ชะเอม กระวาน กระเทียม หรือ ดีปลี ซึ่งสูตรการเติมสมุนไพรนั้นจะไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละบ้านที่สืบทอดต่อกันมา

 

การเก็บรักษา ข้าวหมาก: ในการเก็บรักษาข้าวหมากไว้ได้นานนั้นควรเก็บด้วยการซีล แนะนำให้ซีลด้วย เครื่องซีลถุง / เครื่องซีลปากถุงเพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปทำปฏิกิริยากับข้าวหมาก

แป้งข้าวหมาก:ทำเมนูอะไรได้บ้าง?
แป้งข้าวหมาก นิยมใช้ทำเป็น ข้าวหมาก มากที่สุก เพราะจะเปลี่ยนให้ข้าวเหนียวมีรสนุ่ม อร่อย หอมหวาน นอกจากนี้ อาจนำไปใช้แทนยีสต์ เพื่อทำขนม เช่น ขนมตาล ขนมถ้วยฟู ซาลาเปา หรือ ขนมปัง ด้วย แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้รับความนิยม

ประโยชน์อื่น ๆ ของ แป้งข้าวหมาก
นอกจากใช้ทำข้าวหมากและขนมอื่น ๆ ยังสามารถนำแป้งข้าวหมากไปเป็นหัวเชื้อ ใช้ทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ทางการเกษตรได้อีกด้วย

 

สูตร ข้าวหมาก แสนอร่อย

ข้าวหมาก เป็นขนมไทยพื้นบ้าน ที่ทำจากการนำข้าวเหนียวมาผสมกับแป้งข้าวหมาก แล้วหมักทิ้งไว้ จนมีรสชาติอร่อย หอมหวาน นิยมกินหลังอาหาร หรือ กินเป็นอาหารว่างเพื่อเพิ่มความสดชื่น กินแล้วช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย จึงเป็นของหวานอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยม ดังนั้น หากใครอยากทำข้าวหมากทานเองที่บ้าน เรามีมาฝาก 3 สูตรด้วยกัน ดังนี้

 

ข้าวหมากขาว

 

 

ส่วนผสม

ข้าวเหนียว 1,000 กรัม
แป้งข้าวหมาก 1/2 ก้อน
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
 

วิธีทำ

  1. นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำให้สะอาด หลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำซาวข้าว จะขาวใส เสร็จแล้ว แช่ทิ้งไว้ 1 คืน
  2. กรองน้ำซาวข้าวออกให้หมด แล้วนึ่งข้าวเหนียวให้สุก ใช้หวดหรือซึ้งนึ่งก็ได้แล้วแต่สะดวก
  3. พอข้าวเหนียวสุกดีแล้ว ให้นำมาใส่ชามผสม ใส่น้ำดื่มสะอาดลงไปให้พอท่วม ใช้ทัพพีคนข้าวเหนียว ให้ยางข้าวเหนียวละลายน้ำออกให้หมด เสร็จแล้ว เทออก แล้วเติมน้ำลงไปใหม่ ล้างออกหลาย ๆ รอบ จนกว่ายางข้าวเหนียวจะถูกล้างออกจนหมด พอล้างยางข้าวเหนียว จนน้ำใสแล้ว ให้กรองน้ำออก พักให้สะเด็ดน้ำ
  4. นำแป้งข้าวหมากมาบดให้ละเอียด เสร็จแล้ว นำข้าวเหนียวมาใส่ชามผสม แล้วโรยแป้งข้าวหมากให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันทั้งหมด
  5. ใส่น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้ทั่ว พอผสมเข้ากันดีแล้ว ให้เตรียมใบตองรองด้วยถุงร้อนไว้ แล้วตักข้าวเหนียวใส่ลงไป ห่อให้เรียบร้อย หรือ ใครจะใส่ข้าวหมาก ในถ้วยพลาสติกปิดฝาให้แน่นหนาแทนก็ได้ ทิ้งไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เป็นอันรับประทานได้ ถ้าไม่ทานในทันที หรือ ทำขายแนะนำให้เก็บในตู้เย็น แช่เย็นทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เน่าเสีย
ข้าวหมากข้าวเหนียวดำ
 

ส่วนผสม

  • ข้าวเหนียวดำ 2000 กรัม
  • ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2000 กรัม
  • แป้งข้าวหมาก 4 เม็ด
  • น้ำสะอาด 10000 กรัม


วิธีทำ

  1. นำข้าวเหนียวดำมาล้างน้ำให้สะอาด หลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำซาวข้าว จะขาวใส เสร็จแล้ว แช่น้ำสะอาด 3 ชั่วโมง
  2. นำข้าวเหนียวขาวมาล้างน้ำให้สะอาด หลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำซาวข้าว จะขาวใส พอสะอาดดีแล้ว ให้ใส่รวมกับข้าวเหนียวดำ แล้วแช่ทิ้งไว้ 1 คืน
  3. พอครบเวลา ให้ล้างน้ำสะอาด 1 – 2 รอบ พักข้าวให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลา 25 – 30 นาที
  4. พอข้าวเหนียวสุกดีแล้ว ให้นำมากระจายบนถาดให้คลายร้อน แล้วใส่ชามผสม ใส่น้ำดื่มสะอาดลงไปให้พอท่วม ใช้ทัพพีคนข้าวเหนียว ให้ยางข้าวเหนียวละลายน้ำออกให้หมด เสร็จแล้ว เทออก แล้วเติมน้ำลงไปใหม่ ล้างออกหลาย ๆ รอบ จนกว่ายางข้าวเหนียวจะถูกล้างออกจนหมด พอล้างยางข้าวเหนียว จนน้ำใสแล้ว ให้กรองน้ำออก พักให้สะเด็ดน้ำ
  5. นำแป้งข้าวหมากมาบดให้ละเอียด เสร็จแล้ว นำข้าวเหนียวมาใส่ชามผสม แล้วโรยแป้งข้าวหมากให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันทั้งหมด
  6. พอผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ตักข้าวเหนียวใส่ในถ้วยพลาสติก ปิดฝาให้แน่นหนา บ่มทิ้งไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เป็นอันรับประทานได้ แต่ถ้าไม่ทานในทันที หรือ ทำขายแนะนำให้เก็บในตู้เย็น แช่เย็นทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เน่าเสีย
ข้าวหมากสีชมพู
ส่วนผสม
  • ข้าวเหนียว 5 ถ้วย
  • แป้งข้าวหมาก 1/2 ก้อน
  • ยีสต์แดง 1 ถ้วยเล็ก
วิธีทำ
  1. นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำให้สะอาด หลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำซาวข้าว จะขาวใส
  2. แช่ข้าวเหนียวในน้ำ แล้วใส่ยีสต์แดงลงไป คลุกเคล้าให้ละลายน้ำ แล้วแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 20 – 30 นาที
  3. พอครบเวลา ให้ล้างน้ำสะอาด 1 – 2 รอบ พักข้าวให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลา 20 นาที
  4. พอข้าวเหนียวสุกดีแล้ว ให้นำมากระจายบนถาดให้คลายร้อน แล้วใส่ชามผสม ใส่น้ำดื่มสะอาดลงไปให้พอท่วม ใช้ทัพพีคนข้าวเหนียว ให้ยางข้าวเหนียวละลายน้ำออกให้หมด เสร็จแล้ว เทออก แล้วเติมน้ำลงไปใหม่ ล้างออกหลาย ๆ รอบ จนกว่ายางข้าวเหนียวจะถูกล้างออกจนหมด พอล้างยางข้าวเหนียว จนน้ำใสแล้ว ให้กรองน้ำออก พักให้สะเด็ดน้ำ
  5. นำแป้งข้าวหมากมาบดให้ละเอียด เสร็จแล้ว นำข้าวเหนียวมาใส่ชามผสม แล้วโรยแป้งข้าวหมากให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันทั้งหมด
  6. พอผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ตักข้าวเหนียวใส่ในถ้วยพลาสติก ปิดฝาให้แน่นหนา บ่มทิ้งไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เป็นอันรับประทานได้ แต่ถ้าไม่ทานในทันที หรือ ทำขายแนะนำให้เก็บในตู้เย็น แช่เย็นทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เน่าเสีย

 

 

อาหารคลีนแบบอร่อย ก็ต้องเป็นสลัดโรล ที่กินได้ง่ายแค่คำเดียว พอดีคำแต่ไส้แน่น ไม่ต้องมานั่งเทน้ำสลัดแล้วคลุก แต่เมนูนี้กินคำเดียวก็ได้ทั้งผักและเครื่องเคียง จิ้มน้ำสลัดรสชาติเข้าข้นเต็มคำ ทำได้ง่ายๆ ด้วยขั้นตอนดังนี้ครับ

 

มาเอาใจสายคลีนให้สุด ! ด้วย สูตรอาหาร สุดคลีน แถมอร่อยได้ง่ายๆ บอกเลยว่าเป็นเมนูสุขภาพที่กินง่าย รสชาติดีต่อใจมากค่ะ กับ สูตรทำ สลัดโรล ซีฟู้ด เป็นสลัดโรล ที่ทานคู่กับน้ำสลัดซีฟู้ด รสชาตินัวสุดๆ ฟินทุกคำ ! แถมยังเป็น เมนูสร้างอาชีพ ทำขายยังไงก็เวิร์ค ไปค่ะ ตามไปดูวิธีการทำเลยดีกว่า รับรองว่าทำไม่ยาก ใช้เวลาไม่นานด้วยจ้า

 

หากท่านใดทำสลัดเป็นอาชีพ ทำสลัดขาย ต้องการถนอมอาหาร หรืออยากเก็บสลัดทานได้หลายๆ วัน ขอแนะนำให้มี เครื่องสุญญากาศ ของติดบ้านไว้ โดยรุ่นสำหรับใช้ตามบ้านนั้นมีราคาแค่หลักร้อยเท่านั้น สำหรับ เครื่องซีลสูญญากาศแนะนำให้ซื้อของแบรนด์ Spring Green Evolution เพราะมีสเปคให้เลือกมากมาย พร้อมบริการซัพพอร์ต ปรึกษาปัญหาดีมาก สามารถดู เครื่องซีลสุญญากาศ ได้ที่ 👉 เครื่องดูดสูญญากาศ

วิธีทําสลัดโรล ปูอัด สลัดโรลทูน่า วิธีทําสลัดโรลหมูยอ วิธีทําสลัดโรลปลาทู

 
สูตรนี้วิธีทำเหมือนกันเพียง เปลี่ยนแค่เนื้อสัตว์ ทูน่า ปลาทู ปูอัด ตามชอบ 

วัตถุดิบ
แผ่นแป้ง (แป้งเปาะเปี๊ยะญวน) , เรดโอ๊ค , กรีนโอ๊ค , แครอท (หั่นเป็นเส้นยาว) , แตงกวา (หั่นเป็นเส้นยาว) , ปูอัด หรือ ทูน่า ปลาทู (เนื้อสัตว์ตามชอบ)

วิธีทำ
1. นำแผ่นแป้งจุ่มน้ำ แค่พอเปียก โดยแช่ไม่เกิน 5 นาที หรือแค่แป้งนิ่ม ให้ยกขึ้น อย่าแช่นานเกินแป้งจะเหนียวได้ ห่อยาก
2. กางแผ่นแป้งบนเขียง เรียงผัก และเนื้อสัตว์ บนแป้ง ใช้นิ้วมือจุ่มน้ำเล็กน้อย ม้วนแป้งผักให้แน่น โดยม้วนไปจนสุดเพื่อให้ สลัดโรล ไส้แน่น จากนั้นหั่นครึ่ง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ โดยสลัดโรลปูอัด 240 กิโลแคลอรี่

สลัดโรลปูอัดมีดังนี้ เมื่อเทียบต่อปริมาณ 100 กรัม
แผ่นสาหร่าย 100 กรัม. 20 กิโลแคลอรี่ , แตงกวา 100 กรัม. 15 กิโลแคลอรี่ , ผักกรีนโอ๊ค 100 กรัม. 17.2 กิโลแคลอรี่
แครอท 100 กรัม. 50 กิโลแคลอรี่ , ปูอัด 100 กรัม. 84 กิโลแคลอรี่

วิธีทําสลัดโรลสาหร่าย สูตรใหม่ ไม่ใช้แป้ง
สลัดโรลสาหร่าย สูตรม้วนง่าย ๆ โดยใช้สาหร่ายมาห่อแทนแป้ง

วัตถุดิบ
ผักสลัด กรีนโอ๊ค หรือ บัตเตอร์เฮด , แครอท , แตงกวา , แผ่นสาหร่ายอบแห้งที่ไว้สำหรับทำ ซูชิ , ปูอัด

วิธีทำ
1. ล้างผักทั้งหมดให้สะอาด ปอกเปลือกแครอท แตงกวา แล้วหั่นเป็นแท่งยาวพอดีคำ ส่วนผัก กรีนโอ๊คแนะนำให้ตัดส่วนที่แข็งออกเพื่อเวลาห่อสาหร่ายไส้จะได้ไม่แตก . เตรียมปูอัดผ่าเป็นแบ่งครึ่งเป็นชิ้นยาวพอดีคำ
2. ตัดสาหร่ายแผ่นใหญ่เป็นชิ้นพอดีคำสำหรับห่อไส้ นำผักสลัดมาวางเรียง (กรีนโอ๊ค หรือ บัตเตอร์เฮด แครอท แตงกวา ไม่ใส่มากเกินไป เอาแค่พอห่อได้
3. ม้วนสาหร่าย โดยเอาน้ำจุ่มมาทาตรงแผ่นปลายสาหร่าย เพื่อให้แผ่นสาหร่ายติดกัน 

สลัดโรลสาหร่ายมีดังนี้ เมื่อเทียบต่อปริมาณ 100 กรัม
แผ่นสาหร่าย 100 กรัม. 60 กิโลแคลอรี่ , แตงกวา 100 กรัม. 15 กิโลแคลอรี่ , ผักกรีนโอ๊ค 100 กรัม. 17.2 กิโลแคลอรี่
แครอท 100 กรัม. 50 กิโลแคลอรี่ , ปูอัด 100 กรัม. 84 กิโลแคลอรี่

เทคนิค วิธีทําสลัดโรล ให้ ไม่ติดกัน
ปัญหาส่วนใหญ่ๆ ของ วิธ๊การทำสลัดโรล คือการที่แป้งเหนียวติดกัน เวลาห่อแป้งจะชอบติดมือ เวลาห่ออาจจะไม่สวย หรือทานแล้วแป้งติดกันเกินไป ซึ่งมีทริก วิธีทําสลัดโรล ให้ไม่ติดกัน ดังนี้


1. แตะน้ำมันเล็กน้อยที่มือ โดยหลักจากนำแผ่นแป้งชุบน้ำวางบนเขียงแล้ว ใช้มือแตะน้ำมันแบบบางๆ เพียงเล็ก น้ำมันจะไปช่วยละลายความเหนียวของแป้ง
2. อย่าแช่น้ำนานไป โดยแช่ทีละแผ่น เอาแค่น้ำผ่าน ซัก 5 วิ แล้วเอาแผ่นผ่านน้ำขึ้นเลย มันอาจะจะดูเหมือนไม่นิ่มหรือเละ หากแป้งยังไม่นิ่มหรือยังแข็ง เหนียวๆ อยู่ ให้ห่อให้เสร็จ แล้วค่อยเอาน้ำมาลูปเมื่อห่อเสร็จ
 
แจกสูตร น้ำสลัด
 
1.น้ำสลัด 🥗 โยเกิร์ต
 


น้ำมะนาว 1 ลูก ,โยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย, น้ำผึ้งป่า 1 ช้อนโต๊ะ ,  , เกลือเล็กน้อย , ผักพาร์สเลย์ , พริกไทย , กระเทียมครึ่งกลีบ , น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำ
1. ใส่ น้ำมันรำข้าว น้ำมะนาว น้ำผึ้งป่า โยเกิร์ตไขมันต่ำ เกลือเล็กน้อย พริกไทย กระเทียมครึ่งกลีบ
ลงไปผสมให้เข้ากัน

2.หั่นใบพาร์สเลย์ ให้ละเอียด ใส่ลงไปตามชอบ คนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

2.น้ำสลัด 🥗 ครีมซีฟู๊ด


วัตถุดิบ
มายองเนส เบสฟู้ดส์ 250 กรัม , กระเทียมจีน 5 กลีบ , พริกเขียว 50 กรัม , ผักชี รากผักชี 1 ต้น , โหระพา 3 ใบ , น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ , น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ , เกลือ , น้ำเปล่า

วิธีทำ
1.นำทุกอย่างใส่โถปั่น และปั่นให้ละเอียด

2.ชิมรสชาติ หากเผ็ด ก็ค่อยๆ เพิ่มน้ำตาล หรือปรุงตามชอบ

3.น้ำสลัด 🥗 สูตรมาตรฐาน
วัตถุดิบ
ไข่แดง 8 ฟอง , เกลือป่น 2 ช้อนชา , พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา , มัสตาร์ด 1 ช้อนชา , น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ , น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ , น้ำมันถั่วเหลือง 1 ถ้วย , นมข้นหวาน 3ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว ใส่ถ้วยรอไว้

2.ใส่ไข่แดงลงเครื่องปั่น เกลือ พริกไทยป่น ปั่นสวนผสมให้เข้ากัน

3.ใส่ มัสตาร์ดลงไป นมข้นหวาน ปั่นส่วนผสมให้เข้ากัน

4.ใส่น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู ปั่นส่วนผสมให้เข้ากัน

5.จากนั้นใส่น้ำมันถั่วเหลือง โดยค่อยๆ ใส่ลง สลับกับปั่น จนน้ำสลัดเข้ากัน (น้ำมันจะช่วยให้น้ำสลัดข้นขึ้น)

6.เทน้ำสลัดใส่ชาม/ถ้วยอลูมิเนียมพักไว้ (ถ้วยหรือชามต้องมีขนาดหม้อ เนื่องจากเราต้องเอาไปวางไว้บนหม้อเพื่ออังความร้อนจากหม้อ)

7.ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นรี่ไฟเหลือไฟกลาง เอาถ้วยทีมีน้ำสลัดวางลงไปบนหม้อ (ใครมีซึ้งอาจใช้ซึ้งนึ่งโดยไม่ต้องปิดฝา) ใช้ตะกร้อตีไข่คนเรื่อยๆ หรือไม้พาย และคอยปาดขอบ เพื่อไม่ให้ไหม้ หรือเป็นก้อนๆ เมื่อไข่สุกหรือได้ที่แล้วยกลงพร้อมใส่กระปุก
 

ขายอาหารอะไรดี ? เอาใจคนอยากค้าขายกับสูตรอาหารทำขาย เมนูสร้างอาชีพที่ใคร ๆ ก็ค้นหา ลองทำขายดูรับรองรอดและกำไรทะลุเป้าแน่นอน

 

ใครอยากเปิดร้านขายอาหาร แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี และขายอะไรดีถึงจะรอด ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แอดมินช่วยได้ ขอนำเสนอวิธีทำเมนูอาหารทำขาย มีทั้งสูตรอาหารทำขายและสูตรขนมทำขาย เช่น อาหารตามสั่ง กล้วยทอด ยำ ข้าวมันไก่ ขนมปังไส้ทะลัก เป็นต้น ใครพร้อมขายกันแล้วเปิดร้านกันเลยจ้า

ข้าวยำไก่แซ่บ

 

ส่วนผสม ข้าวยำไก่แซ่บ
ส่วนผสม ไก่ทอด

  • เนื้อสะโพกไก่ 1,000 กรัม
  • แป้งอเนกประสงค์ 500 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
  • น้ำเปล่า
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • พริกไทย 1/4 ช้อนชา

ส่วนผสม เครื่องยำ(สำหรับ 1-2 เสิร์ฟ)

  • ไก่ทอด
  • น้ำมะนาว 2 1/3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2/3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 2/3 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 30 กรัม
  • ต้นหอม 3 กรัม
  • ผักชีฝรั่ง 5 กรัม
  • ผักชี 3 กรัม

เครปเค้ก ซอสสตรอว์เบอร์รี่

 

ส่วนผสม เครปเค้ก ซอสสตรอว์เบอร์รี่
ส่วนผสม แป้งเครป

  • แป้งเค้ก 250 กรัม
  • ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 6 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 80 กรัม
  • น้ำมันคาโนลา 100 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • กลิ่นวนิลา 1 1/2 ช้อนชา
  • นมข้นจืด 200 กรัม
  • นมสด (จืด) 250 กรัม
  • น้ำเปล่า 300 กรัม

 

 

ส่วนผสม ซอสสตรอว์เบอร์รี่

  • สตอเบอรี่แช่แข็ง 200 กรัม
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • น้ำเปล่า 100 กรัม

 

 

ส่วนผสม วิปปิ้งครีม

  • ดรีมมี่ วิปปิ้งครีม (ชนิดหวาน) 200 กรัม
  • น้ำเย็นจัด 400 กรัม

เอ็นข้อไก่ทอด

 

ส่วนผสม เอ็นข้อไก่ทอด

  • เอ็นข้อไก่ 700 กรัม
  • แป้งทอดกรอบ 4-5 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 7 กรัม
  • ใบมะกรูด 10 กรัม
  • น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 80-100 กรัม

ไก่วิงแซ่บ

ส่วนผสม ไก่วิงแซ่บ

  • ปีกบนไก่ 500 กรัม
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • กระเทียมป่น 1 ช้อนชา
  • พริกไทย 1 ช้อนชา
  • แป้งทอดกรอบ 150 กรัม
  • แป้งสาลี 150 กรัม
  • นมสดรสจืด 200 ml.
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงวิงแซ่บ 2 ช้อนโต๊ะ

SGE ศูนย์รวม เครื่องทำไส้กรอก มีทั้งเครื่องยัดไส้กรอก เครื่องมัดไส้กรอก อันดับ 1 ใช้ง่าย ทนทาน ราคาไม่แพง ทำได้ทั้ง ไส้อั่ว หมูยอ แหนม

 

สังขยาชาไทย

 

ส่วนผสม สังขยาชาไทย

  • ผงชาไทย 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำร้อน 200 มิลลิลิตร
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • น้ำตาล 140 กรัม
  • ครีมเทียม 450 มิลลิลิตร
  • แป้งข้าวโพด 30 กรัม
  • เนยสด(เค็ม) 80 กรัม

ทีมา food.trueid.net