นิจิโอเคะ ใน โคเบ - จดหมายถึงอุไตเทะซัง | :[Kuri'S BloG]:

:[Kuri'S BloG]:

(๑╹ω╹๑ ) ・・クリのどうでもいい日常・・(๑╹ω╹๑ )



*มีการย่อบ้าง เปลี่ยนคำบ้าง(เพื่อให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น)ครับผม แต่พยายามจะไม่ให้ความหมายคลาดเคลื่อนจากบทความจริงของ จีซัง ที่สุดแล้วครับ
หากอ่านแล้วไม่พอใจ ย่อมากเกินไป หรือรู้สึกว่าเปลี่ยนคำของเขามากเกินไปก็ขออภัยด้วยครับ m(_ _)m *

**พิมพ์สดๆ รวดเดียวครับ...พิมพ์ผิดบ้างอะไรบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยครับ*




ที่มาครับ (ノ0w0)ノ三【Gimuin G's BloMaga


ถึง “นิจิโอเคะ” ที่โคเบจะจบไปแล้ว แต่อารมณ์ยังไม่จบครับ
เรื่องที่อยากพูด ส่วนใหญ่ก็เขียนไปแล้วเมื่อวานครับ
ครั้งนี้ เลยคิดว่าอยากเขียนแนะนำนักร้องที่ขึ้นเวทีด้วยกันซักหน่อย
ลองเขียนเหมือนเวลาเขียนจดหมายดูหน่อยดีมั้ยนะ (หัวเราะ)

ออกแนว พอนึกอะไรออกก็เขียน
เพราะฉะนั้นประโยคมันอาจจะเละเทะนะครับ
ยกโทษให้ผมด้วย! (หัวเราะ)


【That】
ครั้งแรกที่เจอกัน คือวันที่ 30 ธันวา ซึ่งก็เป็นกำหนดที่จะมี “นิจิโอเคะ”ครั้งที่3 ที่โอมิยะโซนิกซิตี้
ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าครั้งนี้ได้ขึ้นเวทีด้วยกันอีก
(อันนี้ขึ้นอยู่กับ 40ซัง)
ก็จะเท่ากับว่า ได้ร่วมงานกันเป็นเวลา 5 ปีเต็มพอดิบพอดีเลย

เมื่อตอนที่ไปดื่มกันหลังจาก ซ้อมใหญ่ของ นิจิโอเคะ ครั้งที่1 เสร็จ
แล้วผมพูดถึงเรื่อง “ที่โคเบ มีสถานที่นะ แต่ต้องตัดสินใจตอนนี้ ทั้งๆที่ยังงานที่โตเกียวยังไม่จบเลย รู้สึกไม่มั่นใจเลยว่าจะจัด อิจิโอเคะ ได้รึเปล่า”
ซัททน (หมายถึง Thatซังคับ) ก็หัวเราะ แล้วก็บอกว่า “ไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าเป็นนายน่ะ ทำได้อยู่แล้ว นายก็ทำอะไรแบบฉุกละหุกแบบนี้อยู่แล้วไม่รึไง จิมุอินใช่มั้ยล่ะ”
ทั้ง40ซัง ทั้งตัวผมเอง พอได้ฟังอย่างนั้นแล้ว ก็เลยรู้สึกมั่นใจในตัวเองขึ้นมาได้บ้าง

แต่ดูเหมือนเจ้าตัวคงไม่ได้คิดอะไรมากมายแน่ๆเลย ว่ามั้ยครับ? (หัวเราะ)
พวกผมเป็นพวกที่มีอะไรก็เก็บเอามาคิดมากตลอด
เพราะอย่างนั้นการมีคนแบบนี้อยู่ด้วย
นั้นเป็นอะไรที่ช่วยได้มากเลยครับ

ผมรู้สึกเหมือนการหัวเราะแบบนั้น เป็นเหมือนการช่วยสนับสนุนพวกผมอยู่เบื้องหลัง
ถึงจะเหมือนว่าผมไม่เห็น แต่ผมก็ดูอยู่นะ (หัวเราะ)
ตอนที่thatซังเล่าประสบการณ์ที่การขึ้นเวที นิจิโอเคะครั้งแรก ให้กับคนที่ไม่มีประสบการณ์น่ะ
ขอบคุณนะ!


【Clearซัง】
หลังจากที่ไม่ได้ขึ้นเวทีด้วยกันมานาน
ครั้งนี้ เคลียร์ซังบอกว่า
ถ้าทุกคนแต่งตัวเหมือนกันหมดก็น่าเบื่อน่ะสิ
แล้วก็ใช้ผ้าพันคอสีฟ้าแทนที่จะผูกไทด์ขึ้นเวที
มันเป็นอะไรที่หลงเหลือในความทรงจำมากเลยครับ

ครั้งนี้ขึ้นเวทีด้วย เพลง Melody in the Sky ที่อเรนจ์เป็นเวอร์ชั่นบัลลาร์ด
เป็นบัลลาร์ดเพลงแรก ในลำดับเพลงของนิจิโอเคะ ครับ
เพราะอย่างนั้น เลยอยู่ในตำแหน่งทีค่อนข้างกดดันครับ
คือ จะทำให้คนดูอินไปกับเพลงได้หรือไม่

แจ่มมาก...
อ่า... เหมือนว่ามันกลายเป็นเพลงของ เคลียร์ซังไปเลย
ผมคิดอย่างนั้นไปพลางเล่นเปียโนไปพลางครับ

ทีมที่ช่วยกันสร้าง นิจิโอเคะครั้งนี้
เป็นทีมงานเดียวกับที่จัดไลฟ์ของ Clear&Nero ครับ
เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าต้องคุ้นเคยกับเคลียร์ซังดี
แต่ถึงอย่างนั้น เขามาบอกผมทีหลังว่า
“ตอนที่ยืนดูอยู่ข้างเวทีก็แอบคิดว่า เนี่ยแหละนะ เคลียร์คุง...
ฟังมาจนถึงเพลงที่เคลียร์คุงร้อง หมายถึง
ตั้งแต่เพลงแรก จนถึงเพลงที่สามนี้ ดูแล้ว รู้สึกว่ามันสุดยอดมากเลย”

ไม่รู้จะพูดยังไงกับความมั่นคงนี้เลย
สุดยอดจริงๆครับ
รู้สึกเหมือนว่า เขารู้ตัวว่าตัวเองเป็นนักร้องคนหนึ่งที่จะต้อง
คำนึงถึงทุกสิ่งทุกอย่างบนเวที
ผมดีใจมากครับทีได้เล่นเปียโนให้เขา


【Amatsukiคุง】
หลังจากที่รู้ว่าครั้งนี้ 40ซังจะชวนอามาทสึกิคุงซึ่งในนิจิโอเคะครั้งแรกนั้นมาร่วมมงานในฐานะคนดู ผมก็คิดว่า “อามาทสึกิคุงจะต้องดีใจมากแน่ๆเลย”
เพราะหลังจากจบงานครั้งแรก อามาทสึกิคุงก็มาบอกผมว่า
“รู้สึกเจ็บใจที่ไม่ได้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีนั้นครับ
การที่ได้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีนั้นเป็นอะไรที่น่าอิจฉามากเลยครับ”
(แต่ที่ 40ซัง ชวนอามาทสึกิคุงนั้น ไม่ใช่เพราะผมเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ฟังนะครับ)

ถึงผมจะไม่ได้อยู่ด้วยตอนที่ 40ซัง ชวนอามาทสึกิคุง
แต่ทุกครั้งที่เจอกันเขาก็พูดถึงแต่เรื่อง นิจิโอเคะ
ทำให้ผมรู้ว่า เขารู้สึกตื่นเต้น แล้วก็รอวันงานอยู่ตลอด
เหมือนเด็กที่เล็กๆที่ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะไปทัศนะศึกษานอกสถานทีเลย (หัวเราะ)

เพราะฉะนั้น มันทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่า
เขาตั้งใจร้องเพลงที่ได้รับมอบหมายขนาดนั้น

ตอนที่ป่วยระหว่างซ้อม จนอาจจะไม่ได้ไปร่วมงานซ้อมใหญ่
ก็ดูเจ็บใจมากเลย

เมื่อ3ปีก่อน ตอนที่ไปจอห์นนาธาน กับ ทีคุง โซรารุคุง อามาทสึกิคุง
3คนเอาแต่คุยกันว่า “ซักวันอยากจะมีไลฟ์ของตัวเองบ้าง” “ซักวันอยากจะออกซีดีของตัวเองบ้าง”
ทั้ง3คนคุยถึงเรื่องเพลงดูกันท่าทางสนุกสนาน
มาถึงตอนนี้ แม้จะได้ขึ้นเวทีด้วยกันแล้ว
ถึงเวลาจะผ่านมากี่ปี แต่รอยยิ้มเวลาที่ได้ร้องเพลงนั้น ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยครับ


【Eichipiyokoซัง】
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกันครับ
ได้เจอกันที่งานซ้อมในที่โตเกียวครับ

ได้คุยกันจริงๆจังๆก็หลังจากงานซ้อมใหญ่จบแล้วไปดื่มกัน
อืม...เป็นคุณพี่สาวที่ดื่มเก่งจริงๆ...(หัวเราะ)
นั่งดื่มเอาดื่มเอา
จนสุดท้ายผมก็เลยเผลอดื่มมากเกินจนเละเทะเหมือนกัน
ครั้งหน้าอยากจะไปดื่มด้วยกันแบบจริงๆจังๆมากเลยครับ

พิโยโกะซังบอกว่า "ส่วนใหญ่เวลาร้องเพลงจะถือกีต้าร์ไว้ด้วย เพราะงั้นเวลาไม่ถืออะไรจะรู้สึกไม่สบายใจ"
เพราะงั้นก็เลยซ้อมทุกวัน
ผลออกมาก็คือ ตอนร้องก็เลยร้องออกมาได้อย่างมั่นใจ
ผมก็เบาใจครับ
ตอนที่อธิบายเรื่องท่าเต้นในเพลงให้ผม ก็ดูท่าทางสนุกมากเลยครับ
พอคิดว่าเขาให้ความสำคัญกับทุกวินาทีในเพลง ตั้งแต่เพลงเริ่มจนเพลงจบ ผมก็รู้สึกมีความสุขมากเลยครับ

เพลง "Futariboshi" ที่ร้องก็กับชาโนะซัง
ทั้ง2คนก็ปรึกษากันมาตลอด
ทุกครั้งที่ซ้อมท่อนฮุคก็ยิ่งมีพลังขึ้นเรื่อยๆ
จนสุดท้าย พวกผมนักดนตรีก็ต้องปรับเสียงให้ดังขึ้นในท่อนฮุคสุดท้าย
เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกว่า นักร้องเป็นฉุดดึงนักดนตรีขึ้นจริงๆครับ


【Itokashitaro】
หลังจากที่ได้เจอกันครั้งแรก ตอนนี้เวลาก็ผ่านมา1ปีพอดีครับ
ปีที่แล้วที่เจอกันในงานที่อาซากะยะ เป็นงานอีเว้นท์ถ่ายทอดสดโกลเด้นวีคของผมครับ
ตอนนั้นแม้ว่าผมจะยังไม่รู้จักชื่อเขา แต่เขาก็ร่วมงานของผมครับ

เพราะสต๊าฟบอกผมว่า "ถ้าเป็นเพลง stand by me เขาบอกว่าเขาร้องได้นะ"
ด้วยความที่อยากจะให้คนที่ผมไม่รู้จักชื่อคนนี้ตกใจ
ผม Testซัง โชบงซัง ก็เลยเริ่มเล่นเพลง stand by me กันครับ

แล้วเขาก็ออกมาร้องเพลงจริงๆ
พวกผมนักดนตรีก็ "อะ...อะไรกัน!?" คิดไปพลางเล่นไปพลางครับ
(kuri// คือหมายถึงในแง่ดีอ่ะครับ เหมือนอยากจะบอกว่า ตกใจในเสียงร้องของคะชิซัง ทำนองนั้น)

หลังจากที่เพลงจบ แล้วก็ได้รับเสียงปรบมือดังสนั่นจากคนดู
พวกผมถึงได้ทักทาย "ยินดีที่ได้รู้จักครับ" กันอย่างจริงจังครับ (หัวเราะ)

"ชื่อะไรหรอ!"
"อิโต้คะชิทาโร่ครับ"

หลังจากนั้น 5 เดือน เขาก็ได้รับหน้าที่เป็น Top
ในงาน "นิจิอิโร่ออร์เคสตร้า" ที่มีสมาชิกวงนักดนตรีเหมือนงานในวันนั้นครับ

ครั้งนี้ก็สามารถเปลี่ยนความกดดันจากการที่ต้องขึ้นร้องเป็นคนแรกให้กลายเป็นการร้องเพลงที่ฟังสบายใจไปได้เป็นอย่างดี
มันเป็นสไตล์ของนายใช่มั้ยล่ะ
แม้ว่าจะไม่มี พิธีกร เขาก็ดูเหมือนจะไม่รู้สึกกลัวอะไร
"ส่งข้อความไปถึงคนฟังผ่านเสียงเพลง"ตามแบบของคะชิทาโร่
ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่งานนิจิโอเคะอยากจะสื่อให้กับคนฟังทุกคน
ถึงจะเป็นสิ่งที่ผมเป็นคนเริ่มขึ้น แต่ผมกลับรู้สึกว่า
เขาเป็นคนสอนผมถึงความหมายของงานนี้เลยครับ


【ΦKushiΦซัง】
นี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกับคุชิซังครับ
งานนิจิโอเคะครั้งนี้ นักร้องหญิงที่40ซังเชิญมามีแต่คนตัวเล็กๆทั้งนั้นเลยครับ

อย่างแรกที่ตกใจเลยคือ
ทำไมถึงได้คุยกับพิโยโกะซังที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกได้ดูสนิทสนมขนาดนี้
ตอนแรกผมคิดว่าเขาสองคนรู้จักกันมาก่อนครับ
แต่ไม่ใช่ เพิ่งได้เจอกันครั้งแรกซะอย่างนั้นครับ

ตอนซ้อมทั้งคู่ดูสนุกสนานกันน่าดู
แล้วพอถึงตอนที่ทุกคนไปดื่มด้วยกัน ก็ยิ่งดูสนิทกันมากขึ้นอีก
ผมที่ตอนแรกไม่รู้ว่าผู้ร่วมงานแต่ละคนเป็นคนยังไงนั้น
พอเห็นอย่างนี้ก็เลยรู้สึกเบาใจขึ้นมาเลยครับ (หัวเราะ)

เพลง "Smile again" ที่เคลียร์ซัง คุชิซัง that ร้องด้วยกัน
ตอนนั้นผมรู้สึกตกใจมากจริงๆครับ
ทั้งthat ทั้งเคลียร์ซังนั้น ขึ้นร้องเพลงในไลฟ์ในเครือ นิโกะบ่อย
ประสบการณ์ก็เยอะ การที่ไปอยู่ระหว่าง2คนนั้น แล้วยังสามารถร้องประสานได้ดีขนาดนั้น
ท่อนสุดท้ายของเพลง ผมแอบคิดว่า เป็นพวกกลุ่มโปรคอลัส ซะอีก
ตอนจบเพลง ที่มีการไล่เสียงเปียโน
เขาประสานเสียงกันดีจนผมรู้สึกว่า "ไอ้เสียงเปียโนเนี่ย มันไม่จำเป็นเลยนะ" เลยครับ


แล้ว เพลง "Jenga" ซึ่งเป็นเพลงของ 40ซัง ที่ผมชอบที่สุดนั้น
ครั้งนี้ก็ใช้เวอร์อเรนจ์แบบเดียวกับที่ใช้ครั้งแรกในงานที่โตเกียวครับ
ตอนที่ผมเห็นคุชิซังหายใจเข้าลึกๆขณะที่รออินโทรเพลงอยู่นั้น
ผมรู้สึกว่า คุชิซังให้ความสำคัญกับเพลงนี้เหมือนกับผม
มันทำให้ผมคิดว่า "เอาล่ะ!! มาสื่อความรู้สึกนี้ให้กับผู้ฟังกันเถอะ"

รู้สึกดีมากเลยครับ ขอบคุณมากครับ!


【Shanoซัง】
ชาโนะซังเป็นนักร้องที่รู้ว่า
เบื้องหลัง "นิจิโอเคะ" นั้นถูกสร้างขึ้นมายังไงมากที่สุดครับ
สำหรับพวกผม ผู้ชาย 2คนที่เอาแต่คิดเพ้อเจ้อ ฝันเฟื่องไปเรื่อย
โดยไม่สนว่าในความเป็นจริงจะสามารถทำได้รึเปล่านั้น
ชาโนะซังเป็นเหมือนคนที่คอยดึงพวกผมให้กลับมาในโลกของความจริงครับ
ขอโทษที่ทำให้ลำบากครับ (หัวเราะ)

"ตัวเองเป็นคนที่ไม่เก่งเรื่องเพลง
สิ่งที่คนอื่นสามารถทำได้ง่ายๆ แต่ตัวเองทำไม่ได้นั้น
มันมีเยอะเกินไป..."

ทั้งๆที่ชาโนะซังเองก็มีข้อจำกัดอะไรหลายๆอย่างแท้ๆ
แต่ผมก็รู้สึกเลยว่า ชาโนะซังก็อุส่าสละหาเวลาซ้อมเพื่องานนี้

ทั้งตอนที่ได้ยินเสียงซ้อมร้องเพลงในห้องแต่งตัวทั้งๆที่ใกล้ถึงเวลาเปิดตัวนักร้อง
ทั้งตอนที่ชาโนะซังตามเช็คเสียงประสานว่าดีรึยังกับนักร้องคนอื่น
เพราะความพยายามนี้ ทำให้เสียงเพลงที่ส่งถึงผู้ชมนั้น
เป็นอะไรที่วิเศษมากครับ

เรื่องท่าเต้นของ DoremifaRondo
ทั้งที่ผมกับ 40ซังไม่ได้พูดอะไรแท้ๆ
ตอนที่เห็นทุกคนซ้อมเต้นกันก่อนงานซ้อมใหญ่นั้นผมตกใจจริงๆครับ
ชาโนะซังเป็นคนที่คอยคิดหาอะไรใหม่ๆ
พยายามคิดว่า สำหรับนักร้องที่ยืนบนเวทีนั้น จะสามารถดัดแปลงอะไรได้โดยที่ยังคงคอนเซปท์งานไว้ได้มั้ย

ขอบคุณมากครับ


【40mP】
เป็นบุคคลที่ผมรู้สึกขอบคุณมากครับ
ไม่ว่าผมจะพูดอะไรรุนแรงเกินไป หรือว่า ทำอะไรพลาดไป
ก็ยกโทษให้ผมทุกครั้ง ขอบคุณนะ

ถึงคอนเสิร์ตนี้จะใช้เวลายาวนานในการเตรียมการ
แต่พอเริ่มแล้ว แป๊บเดียวมันก็จบ
สำหรับผมแล้ว ผมบอกตัวเองมาตลอดว่า
งานนี้เป็นงานที่เมื่อจบแล้ว
มันจะเป็นผลงานชิ้นหนึ่งของ40ซังที่จะหลงเหลือไว้ให้จดจำ

แม้ว่าหลังจากนี้จะยังมีการประชุมอะไรต่างๆอีกเยอะ
เพลงของ 40ซังนั้น เป็นเพลงที่สร้างความบรรเทิงให้กับใครหลายคนมาตลอด
และสำหรับผลงานที่จะถูกสร้างออกมาหลังจากนี้
ถ้าผมจะสามารถช่วยได้...
ผมเองก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ "ได้รับความบรรเทิง" จากเพลงเหล่านั้น
ในฐานะแฟนเพลงคนหนึ่ง ผมยินดีช่วยครับ

ต่อจากนี้ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ