☆。・゚゚・BowLinG・゚゚・。☆ [♥♥♥-鳴-]

☆。・゚゚・BowLinG・゚゚・。☆ [♥♥♥-鳴-]

RoCK!゚・:,。★RoCK!゚・:,。☆RoCK!゚・:,。★
Everything can fullfiled by MUSIC and CAT!(^3^)-☆Chu!!

Amebaでブログを始めよう!
คือมันอัดอั้นและพรั่งพรู การได้ดูนารุโตะ เดอะ ลาสท์ สำหรับเรามันเหมือนอัลบัมภาพรวมความทรงจำของเราที่มีต่อการ์ตูนเรื่องนี้ ตลอดเวลาที่เราอ่านและไม่ได้อ่าน แต่ยังคงเห็นตามช่องทางต่างไม่ว่าจะโทรทัศน์ หรือ ตามโซเชี่ยล ตามคำบอกเล่า จะว่ายังไงดี นารุโตะมีเรื่องราวของตัวเอง และผูกโยงเรา ไม่สิ เราได้ผูกโยงตัวเราเข้าไปกับการเติบโตของเรื่องนารูโตะด้วย จนมาถึงตอนจบจริงๆ ที่นารุโตะได้มีชีวิตครอบครัวหรือก็คือได้เติบโตเต็มที่ เราเองก็อยากเติบโตและมีชีวิตที่ดีอย่างนั้นบ้าง คือไม่ใช่ว่าเราอยากแต่งงานมีครอบครัวมีลูกหรืออะไรแบบนั้น แต่เราอยากจะโตขึ้นโดยที่มีเรื่องราวที่สวยงามเป็นแรงผลักดัน แปลกมั๊ย? คือไม่ว่าจะความทรงจำที่เลวร้ายที่ฝ่าฟันมาของนารุโตะก็กลายเป็นความทรงจำที่ขาดไปไม่ได้ เพราะนารุโตะมีวันที่นารุโตะมีความสุขได้ก็เพราะเรื่องราวเหล่านั้นได้หล่อหลอมตัวนารุโตะให้เติบโตขึ้นและมาจนถึงตอนนี้ได้ เหมือนอธิบายไม่ถูกแต่มากมาย กว่าเราจะมาถึงตรงนี้เราก็อยู่กับเรื่องและชื่อของนารุโตะตลอดมา เราเองก็คิดในแง่ของคนวาดนารุโตะด้วยว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน แต่ไม่ว่าวันเวลาที่ยาวนานสักแค่ไหนก็ต้องปล่อยมือไป ปล่อยให้นารุโตะมีโลกของตัวเอง วันมีวันจบเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สะเทือนใจ แต่มันช่างเป็นการจบที่งดงาม รัก อยากจะขอบคุณทุกคน ทุกอย่างที่ทำให้เรื่องนารุโตะเติบโตมาจนถึงตอนนี้ ดีใจมาก ดใจจริงๆ ที่ได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ และได้ดูเดอะ มูฟวี่ภาคสุดท้ายนี้ เราเองก็จะเติบโตมีชีวิตที่สวยงามให้ได้ เป็นเรื่องที่ผลักดันให้อยากมีชีวิตอยู่จนถึงที่สุด ขอบคุณมากจริงๆ ไม่เคยร็สึกจากที่ไหนมาก่อน แต่จะทำชีวิตให้ดี จะมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะทำเพื่อตัวเองและพร้อมที่จะรักคนอื่นค่ะ ดีจริงๆ ที่ได้รู้สึกแบบนี้ในชีวิต ขอบคุณอีกครั้งสำหรับ NAROTO the last ขอบคุณมากค่ะ!!!!
มันเป็นคําถามที่ทําร้ายจิตใจมากนะ ว่าทําไมเขาถึงเข้ามาในชีวิตของเราแล้วทําแบบนี้กับเรา
แต่จริงๆ มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมด จริงๆ อาจเป็นความผิดของเราทั้งหมดเลยก็ได้ที่ยอมให้เขามาในชีวิตเราได้ง่ายดายขนาดนั้น
มันเหมือนสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแล้วตลอดชีวิตนี้ของเรา

ตอนเด็กเรา จริงๆ ก็ม.ต้นหรือม.ปลายไม่เด็กมาก เราคิดว่าเราจะต้องไปNagano ไปดูงานดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นให้ได้(เราเคยอ่านในหนังสือแล้วฝังใจว่าNaganoคือเมืองที่จัดงานดอกไม้ไฟใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้ยังเป็นแบบนั้นอยู่รึป่าวนะ)
เราชอบดอกไม้ไฟมาก แล้วเวลาที่ดาร์กๆ ก็มักจะคิดว่าความสุขมันก็เหมือนกับดอกไม้ไฟที่สวยงามมากที่สุด แต่เพียงชั่วอึดใจแสงของมันก็จางหายไปจากท้องฟ้าเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น เหมือนมันไม่เคยมีตัวตน แต่จริงๆ แล้วความงามของดอกไม้ไฟกลับมีอยู่จริง การปรากฎของดอกไม้ไฟมันประทับอยู่ในความทรงจํา ในจิตใจของเราต่างหาก เพราะมันมหัศจรรย์มากเวลาที่ได้ยืนดูดอกไม้ไฟเนี่ย มันจะมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นตอนที่มองจริงๆ นะ แต่อธิบายไม่ได้ เราอาจละเอียดไม่พอ แต่มันมีความสุขมาก ตัวเขาเองก็เป็นแบบนั้น เป็นแบบดอกไม้ไฟเลย ตลกมั๊ย?

เราไม่เคยดูดอกไม้ไฟกับใครเลยนอกจากคนในครอบครัว เอิ่ม...จริงๆ แล้วมีนี่หว่า แต่ไม่นับมันละกัน ก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษด้วยนี่นา 5555555
ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมันช่างสั้น แต่มันลืมไม่ได้จริงๆ ทั้งอบอุ่นและเจิดจ้า มันมีรูปร่างและเรื่องราวที่มีแต่เราที่อยู่ตรงนั้นที่เห็นและเข้าใจ เวลาที่สองข้างทางไม่มีใครมีแต่เรา เราเดินไปในที่ไม่เคยเดินไปหรือถึงจะเคยมา แต่มันก็แปลกไปเพราะมีเขาอยู่ข้างๆ นี่ล่ะ คือ ทําไมมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแล้ววะ เราแค่เดินไป แวะหาของกิน ไปเข้าห้องน้ำ กลับออกมาเดิน หยุดพัก กินน้ำ มองดูไฟข้างทาง คุยกันเรื่องไร้สาระ มันเป็นเรื่องโคตรง่าย แต่มันไม่มีทางเกิดขึ้นซ้ำได้อีกแล้ว มาถึงตรงนี้เริ่มดราม่าละ หัวเราะเรื่องบ้าบอ ซีเรียสบ้างกับเรื่องที่ยังไม่เกิด เหมือนดอกไม้ไฟเลยมะ

ดอกไม้ไฟไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง มันพิเศษ เหมือนกับเขาที่ไม่เคยธรรมดา เพราะเขาทําให้เรื่องโคตรง่าย(ธรรมดา)กลายเป็นทีี่พิเศษเสมอ และเช่นเดียวกับดอกไม้ไฟ เขาหายไปอย่างรวดเร็วราวกับเขาไม่เคยมีตัวตน ไม่เคยปรากฎตัวต่อหน้าเรามาก่อน แต่สิ่งที่แย่ที่สุดที่เขาเหมือนกับดอกไม้ไฟก็ตรงที่เขาไม่เคยจางหายไปจากใจของเรา และมากกว่านั้นคือเขาทําให้โลกของเราเปลี่ยนไปนะ ด้วยความง่ายที่เราทํากันนั่นแหละ ไม่ว่าจะเดิน กิน นอนข้างทาง(ง่ายจริงๆ) ทําอะไรก็เลยนึกถึงไปหมดเลย บางทีก็รู้สึกว่าเราเหมือนกันเกินไป เราถึงไม่ค่อยบอกว่าเราชอบอะไร เพราะมันซ้ำน่ะ เขาทําให้เรารู้สึกซ้ำกับเขา แต่เเปลกที่เราไม่รู้สึกหงุดหงิดใจเลย(ปกติจะไม่ชอบมากเวลาตัวเองไปซ้ำกับคนอื่น 555555555) ไม่ใช่ว่ามองตาก็รู้ใจอะไรแบบนั้น แต่ถ้าพูดออกมาก็ใช่เลยน่ะ ตอนนี้ก็ยังรู้สึกจริงจังว่าเขาเหมือนกับเราจริงๆ นะ เราไม่ได้ชอบคนที่เหมือนกับเรา แต่เพิ่งรู้ว่าได้เจอคนที่เหมือนกับตัวเองมันดีอย่างนี้ 555555555 ไม่รู้จะพูดอะไรละ แค่โลกของเรามันเขวไป ต้องปรับกันใหม่ อาจนานหรือไม่นาน แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเราช่างมั่นใจว่านี่จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุด้ายที่เราจะได้เจอคนแบบนี้ ไม่น่าเจอกันเลยเนอะ ทั้งที่ก็ไม่น่าเจอกันได้แท้ๆ หรือ ว่ามันไม่น่าแปลกใจที่เจอกันแน่วะ 555555555

อืม นี่ถ้าเห็นดอกไม้ไฟอีกก็ต้องคิดถึงอีก จริงๆ ตอนนี้แค่กินโค้กยังนึกถึงเลยให้ตาย อ่อ มากกว่าโค้กก็น้ำเปล่านี่แหละ ความรงจําที่เรียบง่ายนี่เจ็บง่ายจริงๆ ด้วย 55555555 ก็ตลกดี