ในช่วงอากาศร้อนแบบนี้ เรามาทำสแลนบังแดดให้กับต้นไม้น้อย ๆ ของเรากัน ตอนเด็กเราจำได้ว่าที่บ้านเรานั้นซื้อสแลนบังแดดมาเยอะมาก ด้วยความที่เป็นบ้านสวนด้วยมั้ง ซึ่งบ้านของเรามีหมดไม่ว่าจะเป็นสีเขียว สีดำ และสีฟ้า โดยส่วนใหญ่จะมีแต่สีเขียวมากกว่า ซึ่งบ้านเรานั้นใช้แต่ละสีแตกต่างกันออกไป สีเขียวใช้กับพืช สีฟ้าใช้กับบ่อปลา ส่วนสีดำนั้นเอาไว้ใช้คลุมบังแดดเครื่องมือเครื่องใช้เป็นส่วนใหญ่ ตรรกะการเลือกสีของบ้านเรานั้นไม่มีอะไรเลย พืช = สีเขียว น้ำ = สีฟ้า ส่วนสีดำเวลามองจากที่มืดแล้วมันดูกลมกลืน การเลือกสีสแลนของบ้านเรามีประมาณนี้
สแลนทำจากอะไร?
- มีสีขุ่น แสงผ่านได้น้อย เหมาะกับการนำไปผลิตเป็นวัตถุป้องกันแสง
- ทนต่อความร้อนจากแสงแดดและความร้อนจากสภาพอากาศได้สูงถึง 80 – 100 องศาเซลเซียส
- ทนต่อความเย็นได้ต่ำกว่าระดับจุดเยือกแข็ง
- ป้องกันความชื้นซึมผ่านได้ดีมาก จึงสามารถใช้งานได้ทั้งการป้องกันการเปียกชื้น และ การเก็บกักรักษาความชุ่มชื้น
- ไม่ไวต่อสารเคมี จึงสามารถใช้ได้ทั้งกับสภาพความเป็นกรด และเป็นด่าง
- มีความเหนียว ยืดหยุ่นสูง ทนทานนานปี
- จำกัดการผ่านของอากาศ จึงใช้งานได้ทั้งการป้องกันอากาศจากภายนอก และปกป้องควบคุมบรรยากาศภายใน
- สามารถใส่เม็ดสีได้โดยไม่กระทบต่อคุณสมบัติการใช้งาน
- สแลนแบบถัก
- สแลนแบบทอ
สแลน ช่วยลดต้นทุนการใช้น้ำและปุ๋ย
การปลูกพืชบางชนิด โดยเฉพาะพืชจากต่างประเทศที่นำมาเพาะในประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน ทำให้เกษตรกร ผู้เพาะปลูกต้องสิ้นเปลืองต้นทุนไปกับการให้น้ำและให้ปุ๋ยเพื่อบำรุงเร่งการเจริญเติบโต และการใช้ปุ๋ยมากเกินไปจะส่งผลเสียตามมา แม้ว่าปุ๋ยที่ใช้จะเป็นปุ๋ยจากธรรมชาติหรือปุ๋ยคอก ก็ตาม ผลกระทบที่ตามมา คือ ทำให้ดินมีสภาพความเป็นกรดหรือด่างสูงมากเกินไป หรือทำให้พืชเสี่ยงต่อการเป็นโรค เพราะโรคระบาดบางชนิดก็มากับปุ๋ย โดยเฉพาะปุ๋ยมูลสัตว์
👍 หากเกษตรกรหันมาใช้สแลนและเลือกแบบที่เหมาะสมกับชนิดของพืชที่ปลูก จะทำให้เกษตรกรสามารถปรับและควบคุมสภาพแวดล้อมได้ด้วยเช่นกัน คือ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความร้อน
- ควบคุมอากาศที่ถ่ายเท
- ควบคุมความชื้น
- ควบคุมปริมาณน้ำฝน
- ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พืชเติบโต ได้ผลผลิตงอกงามดี โดยไม่ต้องรดน้ำบ่อย ไม่ต้องใส่ปุ๋ยมาก จึงถือเป็นการช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลกำไรได้อีกทางด้วย
ซึ่งพืชต้องการแสงสีน้ำเงินและสีแดงเป็นหลัก ซึ่งรวมอยู่ในแสงสีขาวอยู่แล้ว ถ้าแสงสีเหล่านี้ถูกตัดทอนออกไปจะมีผลต่อการสังเคราะห์แสงจนถึงการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้คนส่วนใหญ่เลือกใช้สแลนสีเขียวมากกว่าสแลนสีดำ เพราะสแลนสีดำเก็บความร้อนได้ดีกว่าสีเขียว แต่ส่งผลระยะยาวคือ สแลนสีดำจะผุพัง เสื่อมสภาพเร็วกว่าสแลนสีเขียวนั่นเอง
สำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาสแลนไว้ใช้สำหรับบังแสงให้แปลงเพาะปลูก อาจต้องคำนึงถึงเรื่องช่วงวัยของพืชตามไปด้วย เช่น ช่วงเพาะและอนุบาลต้นกล้า จำเป็นต้องลดแสงแดดสูง จึงควรใช้สแลน 80% เพราะต้นไม้จะได้เติบโตได้ดี เมื่อต้นกล้าแข็งแรงดีแล้ว เราควรเปลี่ยนมาใช้สแลน 50% เพื่อเพิ่มปริมาณแสงแดดมากขึ้น เว้นแต่การเลี้ยงพืชที่ต้องการแสงรำไรในทุกช่วงวัย เช่น กล้วยไม้ เราควรใช้สแลน 80% ตลอดช่วงอายุ
❝ ด้วยการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะให้ร่มเงาแก่แปลงพืชผัก แปลงดอกไม้แล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในการคลุมแปลงปลูก หรือทำเป็นรั้วแบ่งพื้นที่ในการทำปศุสัตว์และประมงต่าง ๆ เช่น บ่อกุ้งและบ่อปลา เพื่อให้ร่มเงาและป้องกันไม่ให้แสงแดดส่งผลกระทบต่อพันธุ์ปศุสัตว์ โดยเราสามารถเลือกอัตราการบังแสงให้เหมาะสมกับพืชหรือฟาร์มของเราโดยดูจากเปอร์เซ็นต์การกรองแสงที่ระบุมากับตัวสแลน โดยค่าเปอร์เซ็นต์ยิ่งสูง ยิ่งสามารถบังแสงได้มากขึ้น และยังสามารถเลือกคุณภาพความทนทานของสแลนได้จากฝีเข็มในการทอยิ่งใช้หลายเข็มยิ่ง