สแลนกันแดด หนึ่งในอุปกรณ์ตัวช่วยคลายความร้อนที่เป็นประโยชน์ให้กับตัวบ้าน และผู้อยู่อาศัย หรือที่หลาย ๆ บ้านเรียกว่า ตาข่ายกันแดด ที่สามารถติดตั้งใช้งานได้ด้วยตนเอง ลงทุนน้อย ประหยัดค่าใช้จ่าย เคลื่อนย้ายสะดวก และใช้งานได้หลากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีลักษณะเปิดโล่ง หรือพื้นที่กลางแจ้ง เช่น สแลนกันแดดโรงรถ พื้นที่เก็บของ โซนสวน Outdoor หน้าบ้านหรือหลังบ้าน พื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัว หรือแม้แต่บริเวณพื้นที่ที่ต้องการร่มเงาเพื่อใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนกลางของทุกคนในครอบครัว แต่จะเลือกใช้สแลนกันแดดอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

 

สแลนคืออะไร?

สแลน (Shading Net) หรือที่เรียกกันว่า ตาข่ายกรองแสง เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์ใช้งานได้หลายอย่าง แต่หน้าที่หลักคือ เอาไว้กรองแสง บังแสง พรางแสง ลดความเข้มข้นหรือความแรงของแสงแดดลง ลดความร้อนที่จะส่งผลกระทบนั่นเอง ◀

สแลนถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายทาง เช่น งานเกษตรทั่วไป, ใช้ทำเป็นหลังคาเรือนเพาะชำ, เรือนเพาะเห็ด, เรือนปลูกผักผลไม้, โรงเรือนไม้ดอกต่าง ๆ คลุมแปลงเกษตร, คลุมหรือล้อมรั้วเลี้ยงสัตว์, ฟาร์มกุ้ง, บ่อเลี้ยงปลา, ทำเป็นหลังคากันแดด, ลานจอดรถ, ดาดฟ้า, อาคารก่อสร้าง ป้องกันการร่วงหล่นของสิ่งของตามอาคารก่อสร้าง และใช้คลุมส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่ต้องการความร่มรื่นสวยงาม และประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายหลายอย่าง

 

สแลนทำจากอะไร?

วัตถุุดิบที่ใช้ในการผลิต คือ High Density Polyethylene หรือเรียกชื่อย่อว่า HDPE เป็นพลาสติกประเภทโพลิเอทิลีน ที่มีความหนาแน่นสูง มีคุณสมบัติพิเศษเมื่อนำไปใช้งานหลายอย่าง ได้แก่

  • มีสีขุ่น แสงผ่านได้น้อย เหมาะกับการนำไปผลิตเป็นวัตถุป้องกันแสง
  • ทนต่อความร้อนจากแสงแดดและความร้อนจากสภาพอากาศได้สูงถึง 80 – 100 องศาเซลเซียส
  • ทนต่อความเย็นได้ต่ำกว่าระดับจุดเยือกแข็ง
  • ป้องกันความชื้นซึมผ่านได้ดีมาก จึงสามารถใช้งานได้ทั้งการป้องกันการเปียกชื้น และ การเก็บกักรักษาความชุ่มชื้น
  • ไม่ไวต่อสารเคมี จึงสามารถใช้ได้ทั้งกับสภาพความเป็นกรด และเป็นด่าง
  • มีความเหนียว ยืดหยุ่นสูง ทนทานนานปี
  • จำกัดการผ่านของอากาศ จึงใช้งานได้ทั้งการป้องกันอากาศจากภายนอก และปกป้องควบคุมบรรยากาศภายใน
  • สามารถใส่เม็ดสีได้โดยไม่กระทบต่อคุณสมบัติการใช้งาน

สแลน มีกี่ประเภท?

 
แบ่งประเภทตามกรรมวิธีการผลิต ได้ 2 ประเภท คือ
1) สแลนแบบถัก
ชนิดนี้ทำจากโพลิเอทิลีนน้ำหนักเบา จึงเหมาะกับเกษตรกรรม การเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ กสิกรรมทุกประเภท
2) สแลนแบบทอ
ตาข่ายชนิดนี้มีน้ำหนักมากกว่า ทิ้งตัวดี มีความยืดหยุ่นและทนทานสูง จึงนิยมใช้ในการเลี้ยงสัตว์และทำสิ่งปลูกสร้างที่ต้องการความแน่นหนามั่นคง
 

ทำไมเกษตรกรและคนปลูกต้นไม้ควรใช้ สแลน?

สแลนช่วยเพิ่มผลผลิตแต่ลดอายุการเก็บเกี่ยวให้สั้นลง
พืชแต่ละชนิดนั้นต้องการปริมาณและความเข้มข้นของแสงในการเจริญเติบโตแตกต่างกัน บางชนิดต้องโดนแดดมากจึงจะออกดอกออกผล เช่น โกสน โป๊ยเซียน มะเขือ พริก เป็นต้น

ในขณะที่บางชนิดต้องการแสงแดดที่กำลังพอดี เช่น คะน้า กวางตุ้ง และบางชนิดต้องแดดรำไร ความเข้มข้นต่ำเท่านั้น จึงจะงอกงามดี เช่น ผักชี ต้นหอม ขิง ข่า กล้วยไม้ ฯลฯ

 

สแลนจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต ออกดอกออกผล ของพืชได้ด้วยคุณสมบัติการพรางแสง เกษตรกรสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสงแดดผ่านมากน้อยแค่ไหน มีตั้งแต่ 30% – 80% เลยทีเดียว นอกจากพรางแสงแล้ว ด้วยความถี่ของตาข่ายและลักษณะของตาข่าย ยังช่วยในเรื่องการกระจายของแสงทั่วถึงและดีขึ้นอีกด้วย 

แสงแดดที่ทั่วถึงและเหมาะสมจะทำให้พืชโตเร็ว ให้ผลผลิตดี ใช้ระยะเวลาในการปลูกสั้นลง ยิ่งถ้าปลูกเป็นพืชล้มลุก ในรอบ 1 ปี เกษตรกรจะสามารถสร้างรายได้ได้มากขึ้นกว่าเดิมเพราะสามารถเก็บเกี่ยวได้หลายครั้ง 


สแลน ช่วยลดต้นทุนการใช้น้ำและปุ๋ย

การปลูกพืชบางชนิด โดยเฉพาะพืชจากต่างประเทศที่นำมาเพาะในประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน ทำให้เกษตรกร ผู้เพาะปลูกต้องสิ้นเปลืองต้นทุนไปกับการให้น้ำและให้ปุ๋ยเพื่อบำรุงเร่งการเจริญเติบโต และการใช้ปุ๋ยมากเกินไปจะส่งผลเสียตามมา แม้ว่าปุ๋ยที่ใช้จะเป็นปุ๋ยจากธรรมชาติหรือปุ๋ยคอก ก็ตาม ผลกระทบที่ตามมา คือ ทำให้ดินมีสภาพความเป็นกรดหรือด่างสูงมากเกินไป หรือทำให้พืชเสี่ยงต่อการเป็นโรค เพราะโรคระบาดบางชนิดก็มากับปุ๋ย โดยเฉพาะปุ๋ยมูลสัตว์

👍 หากเกษตรกรหันมาใช้สแลนและเลือกแบบที่เหมาะสมกับชนิดของพืชที่ปลูก จะทำให้เกษตรกรสามารถปรับและควบคุมสภาพแวดล้อมได้ด้วยเช่นกัน คือ
  • ควบคุมอุณหภูมิ ความร้อน
  • ควบคุมอากาศที่ถ่ายเท
  • ควบคุมความชื้น
  • ควบคุมปริมาณน้ำฝน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พืชเติบโต ได้ผลผลิตงอกงามดี โดยไม่ต้องรดน้ำบ่อย ไม่ต้องใส่ปุ๋ยมาก จึงถือเป็นการช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลกำไรได้อีกทางด้วย